นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.)เปิดเผยถึงการดำเนินการของทางการไทยเกี่ยวกับกรณีนายวันเฉลิมสัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหว ดังนี้
1.ทางการไทยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับฝ่ายกัมพูชาทันทีที่ได้รับทราบว่า นายวันเฉลิม หายตัวไป เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้มีหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกัมพูชาขอความร่วมมือตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในวันรุ่งขึ้นหลังจากทราบข่าวทันที และได้ประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง
2.กระทรวงการต่างประเทศมีความห่วงใยสวัสดิภาพของนายวันเฉลิมฯ โดยถือเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงฯ ที่จะดูแลให้ความช่วยเหลือทางกงสุลแก่คนไทยในต่างประเทศที่ตกทุกข์ รวมทั้งได้ประสานงานและให้คำแนะนำกับญาติของนายวันเฉลิม (น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม) มาอย่างต่อเนื่อง
3.ล่าสุด กระทรวงฯ ได้อำนวยความสะดวก ผ่านกรมการกงสุล และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ให้พี่สาวของนายวันเฉลิม สามารถเดินทางไปกัมพูชา เพื่อให้ข้อมูลต่อผู้พิพากษา ตามคำเชิญของศาลชั้นต้นกรุงพนมเปญ อย่างไรก็ดี ฝ่ายไทยไม่สามารถให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับคดีดังกล่าว เพราะอยู่ระหว่างการดำเนินการโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งในวันที่ 8 ธันวาคม 2563 ศาลกัมพูชาจะนัดไต่สวนคดีนายวันเฉลิม เป็นครั้งแรก
4.โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเน้นย้ำว่า ไทยยึดมั่นในหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชนตามพันธกรณีและกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องที่ไทยเป็นภาคี รัฐบาลไทยมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องและดูแลผลประโยชน์ของคนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ในการนี้ รัฐบาลไทยได้ใช้ความพยายามเต็มที่ในการอำนวยความสะดวกผ่านหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้กระบวนการทางกฎหมายสามารถดำเนินไปได้ด้วยดีในการค้นหานายวันเฉลิม