นางมูเรียล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตันได้ประกาศขยายเวลาสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงวอชิงตันออกไปอีก 15 วัน จนกว่าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของนายโจ ไบเดน จะผ่านพ้นไป
ก่อนหน้านี้นางบาวเซอร์ ได้ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันพุธไปจนถึงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น หลังจากกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางการประกาศรับรองชัยชนะของนายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ส่งผลให้ต้องมีการล็อกดาวน์อาคารรัฐสภา และทำให้การนับคะแนนของคณะผู้เลือกตั้งและกระบวนการประกาศรับรองชัยชนะของนายไบเดนต้องหยุดชะงักลง
"การประท้วงได้บานปลายกลายเป็นการจลาจล ประชาชนจำนวนมากได้เดินทางเข้ามายังกรุงวอชิงตันพร้อมด้วยอาวุธ และมีเป้าหมายที่จะเข้าร่วมในการก่อเหตุรุนแรงและทำลายทรัพย์สิน พวกเขายิงวัตถุเคมี ขว้างปาก้อนอิฐ ขวด และยิงปืน การกระทำเหล่านี้ถือเป็นการทำลายความมั่นคงของรัฐสภา พฤติกรรมการก่อเหตุทำลายทรัพย์สินสาธารณะ และการจลาจลของพวกเขาได้ลุกลามออกนอกพื้นที่รัฐสภา และพวกเขายังคงกระทำการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้" นางบาวเซอร์กล่าว
ขณะที่นายโรเบิร์ต คอนตี ผู้บัญชาการตำรวจของกรุงวอชิงตัน เปิดเผยว่า ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 รายรวมถึงผู้หญิง 1 คนที่ถูกตำรวจยิงในอาคารรัฐสภา ส่วนอีก 3 คนเสียชีวิตด้วยเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ผู้หญิงที่ถูกยิงเสียชีวิตในอาคารรัฐสภานั้นเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ประท้วงที่พังประตูบุกเข้าไปในห้องที่มีการปิดกั้น และได้ถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำการอยู่ในห้องดังกล่าว
เหตุจลาจลที่เหนือความคาดหมายในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สภาคองเกรสได้จัดการประชุมร่วมกันระหว่างวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนับผลคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีจากคณะผู้เลือกตั้ง โดยรองปธน.ไมค์ เพนซ์ ในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง เป็นประธานการประชุมดังกล่าว และจะเป็นผู้ประกาศผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ โดยผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งไม่น้อยกว่า 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ก่อนที่จะเข้าทำพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.นี้
"ไบเดน"ประณามกลุ่มม็อบหนุนทรัมป์บุกคองเกรส ชี้เป็นการก่อจลาจล
ม็อบหนุนทรัมป์นับพันบุกคองเกรส สหรัฐประกาศเคอร์ฟิวเมืองหลวง
อเมริกาเดือด ม็อบหนุนทรัมป์ บุกสภาคองเกรส(ประมวลภาพ)