เมียนมาเดือด กองทัพใช้กระสุนจริงยิงสตรีผู้ร่วมชุมนุมดับอีก 1 คณะสงฆ์ร่วมประท้วงขอบิณฑบาตคืนอำนาจประชาชน

28 ก.พ. 2564 | 04:54 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2564 | 05:17 น.

ขณะที่การปราบปราม-สลายการชุมนุมต้านรัฐประหารในเมียนมายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องมาจนถึงสุดสัปดาห์นี้ การประท้วงและกระแสอารยะขัดขืนโดยประชาชนและบุคลากรกลุ่มอาชีพต่าง ๆในเมียนมา ก็ยังคงยืนหยัดในเมืองต่าง ๆทั่วประเทศ ไม่ได้ลดลงตามแรงกดดัน

สถานการณ์ในเมียนมา ยังคงอุณหภูมิร้อนแรงในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยสื่อต่างประเทศรายงานว่า ผู้ประท้วงหญิงในเมียนมาถูกยิงเสียชีวิตอีกรายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (27 ก.พ.) ขณะที่ผู้บาดเจ็บมีอีกเป็นจำนวนมากหลังจากรัฐบาลทหารสั่งใช้ยุทธวิธีเฉียบขาด สลายการชุมนุม ซึ่งต่อเนื่องมาเป็นเวลาจะครบ 1 เดือนแล้ว ล่าสุด คณะสงฆ์นับร้อยรูปในเมืองมัณฑะเลย์เข้าร่วมเรียกร้องทวงคืนอำนาจ ขณะที่ รัฐบาลทหาร สั่งปลด"จ่อ โม ทุน" ทูตเมียนมาประจำยูเอ็น ฐานชูสามนิ้วต้านเผด็จการกลางเวทีโลก    

สำนักข่าวเกียวโดรายงานอ้างอิงสื่อท้องถิ่นในเมียนมาระบุว่า ผู้ชุมนุมสตรีรายหนึ่งซึ่งเข้าร่วมการประท้วงต่อต้านการทำรัฐประหารในเมียนมาได้ถูกกองกำลังรักษาความมั่นคงยิงเสียชีวิตเมื่อวานนี้ (27 ก.พ.) ในเมืองโมนยาวา ซึ่งอยู่ในภาคกลางของประเทศเมียนมา นอกจากนี้ ยังมีผู้ประท้วงอีกหลายรายได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุม ซึ่งมีรายงานว่า รัฐบาลเมียนมาได้ส่งกองกำลังรักษาความมั่นคงให้ไปปฏิบัติการ “สลายการชุมนุม” ของกลุ่มผู้ประท้วง และมีการยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่ผู้ประท้วงหลายครั้งด้วยกัน

คณะสงฆ์ร่วมเดินขบวนประท้วง (ขอบคุณภาพข่าวบีบีซีเมียนมา)

ทั้งนี้ กองกำลังรักษาความมั่นคงของเมียนมา ยังคงใช้วิธียิงปืนขู่และฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าใส่มวลชนที่ชุมนุมกันประมาณ 1,000 คนในย่านใจกลางธุรกิจเมืองย่างกุ้งตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา (26 ก.พ.) สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ทางการเมียนมาได้ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยปราบจลาจลประมาณ 50 นายเข้าควบคุมสถานการณ์ในย่างกุ้งหลังเกิดเหตุการณ์ "ม็อบปะทะม็อบ" ระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลทหาร ปะทะกับกลุ่มผู้ต้านรัฐประหารเมื่อวันพฤหัสฯ (25 ก.พ.) ทำให้สถานการณ์ทวีความตึงเครียด  การชุมนุมต้านรัฐบาลยังคงดำเนินต่อเนื่องในวันศุกร์-เสาร์แม้จะมีการปราบปรามรายวัน และมีแผนรวมพลังครั้งใหญ่อีกครั้งในวันนี้ (อาทิตย์ที่ 28 ก.พ.) ขณะที่มีผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมตัวไปหลายร้อยคน และข่าวระบุว่าหนึ่งในผู้ถูกจับกุมเป็นผู้สื่อข่าวสำนักข่าวญี่ปุ่น ซึ่งหากยืนยันเป็นข่าวจริง เขาก็จะเป็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศคนแรกที่ถูกจับกุมตัวสืบเนื่องจากเหตุการณ์ประท้วงนับจากที่เมียนมามีเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา

ท่ามกลางความร้อนแรงที่เกิดขึ้นภายในประเทศและการปะทะระหว่างกองทัพกับผู้ชุมนุมที่เกิดขึ้นแทบจะเป็นเหตุการณ์ประจำวัน ในเวทีระหว่างประเทศ รัฐบาลเมียนมากำลังถูกกดดันรอบด้านเช่นกัน โดยสื่อรายงานว่าเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา (25 ก.พ.) ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) แถลงว่าจะงดให้ความสนับสนุนทางการเงินกับรัฐบาลเมียนมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศระงับการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่รัฐบาลเมียนมาไปก่อนแล้ว

นายจ่อ โม ทุน ทูตเมียนมาประจำยูเอ็น

ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ (26 ก.พ.) นายจ่อ โม ทุน เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรเมียนมาประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ลุกขึ้นแสดงจุดยืนเคียงข้างประชาธิปไตยด้วยการ กล่าวประณามการทำรัฐประหารของกองทัพ เขายังชูสามนิ้วสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ และเรียกร้องประชาคมโลกกดดันรัฐบาลเผด็จการทหาร และสนับสนุนรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่ขณะนี้แกนนำถูกจับกุมเป็นจำนวนมาก รวมทั้งนางอองซาน ซูจี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐและหัวหน้าพรรคสันนิบาติแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) และนางอู วิน มินท์ อดีตประธานาธิบดี

การลุกขึ้นประกาศจุดยืนของทูตเมียนมาประจำยูเอ็นผู้นี้ แม้จะได้รับเสียงขานรับกึกก้องในความกล้าหาญที่จะต่อสู้กับอำนาจเผด็จการและยืนหยัดกับอุมการณ์ประชาธิปไตย แต่การกระทำดังกล่าวก็ทำให้เขาถูกกองทัพเมียนมาซึ่งกุมอำนาจการบริหารประเทศในขณะนี้ สั่งปลดออกจากตำแหน่งเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรเมียนมาประจำสหประชาชาติในทันที โดยสถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวี ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลเมียนมา รายงานว่า การปลดทูตเมียนมาประจำยูเอ็นออกจากตำแหน่ง มีสาเหตุเพราะนายจ่อ โม ทุน “ทรยศต่อประเทศชาติ”  อีกทั้งการกล่าวประณามผู้บริหารประเทศเช่นที่เขาทำนั้น ทำให้ไม่ถือว่าเขาเป็นตัวแทนของประเทศอีกต่อไป การกระทำลักษณะนี้ละเมิดอำนาจและความรับผิดชอบสำหรับผู้ที่ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: