สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) หรือทูตพาณิชย์ ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รายงานสถานการณ์ในเมียนมา ณ วันที่ 2 มีนาคม 2564 ว่า จากปัญหาการหยุดงานประท้วง (Civil Disobedience Movement) ของพนักงานธนาคาร ทำให้ธนาคารเอกชนไม่สามารถเปิดทำการได้ ธนาคารเอกชนในเมียนมาได้ตกลงร่วมกันที่จะจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานเต็มจำนวนในเดือนกุมภาพันธ์ และจะพิจารณาจ่ายเงินเดือน ตามจำนวนวันที่พนักงานมาปฏิบัติงานในเดือนมีนาคม
ขณะที่ธนาคารกลางเมียนมา (Central Bank of Myanmar) ได้ออกประกาศจำกัดการถอนเงินได้ไม่เกิน 2 ล้านจ๊าด (ประมาณ 40,000 บาท) ต่อสัปดาห์สำหรับบัญชีบุคคลธรรมดา และไม่เกิน 20 ล้านจ๊าด (ประมาณ 400,000 บาท) ต่อสัปดาห์สำหรับบัญชีห้าง/ร้าน/บริษัท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป เนื่องจากธนาคารเอกชนไม่สามารถเปิดทำการได้จากการหยุดงานประท้วงของพนักงาน ทำให้ประชาชนที่ต้องการถอนเงิน ต้องต่อแถวยาวเพื่อเบิกเงินจากตู้ ATM จนเงินในตู้ ATM หมดลงในเวลา รวดเร็วในช่วงเช้าของทุกวัน
จากการจำกัดการถอนเงินจากบัญชีธนาคารของทั้งบุคคลธรรมดา และห้าง/ร้าน/บริษัทนี้ อาจส่งผลต่อสภาพคล่องของการหมุนเวียนเงินในท้องตลาดที่ถูกจำกัดการถอนออกมาใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และส่งผลให้เกิดการชะลอหรือลดการใช้จ่ายของทั้งบุคคลธรรมดาและห้าง/ร้าน/บริษัท ในรายการค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป
สคต. ณ กรุงย่างกุ้ง ระบุว่า บริษัทไทยที่ทำการอยู่ในเมียนมาควรตระหนักถึงมาตรการการจำกัดการถอนเงินตามประกาศที่ออกใหม่ของธนาคารกลางเมียนมานี้ เพื่อเตรียมการวางแผนค่าใช้จ่ายของบริษัทให้พอเพียงในการดำเนินธุรกิจจากการจำกัดวงเงินการถอนจากบัญชีห้าง/ร้าน/บริษัทได้ไม่เกิน ประมาณ 400,000 บาทต่อสัปดาห์ หรือ 1,600,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ สคต. ณ กรุงย่างกุ้งจะได้ติดตามประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นหลังจากการใช้ มาตรการดังกล่าวและรายงานให้ทราบต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"ดอน" ย้ำกดดันอย่างเดียวไม่ช่วยอะไร แนะ“ถอยคนละก้าว” สู่สันติภาพเมียนมา
รมว.ต่างประเทศ 10 ชาติอาเซียนร่วมประชุม 2 มี.ค. ผ่าทางตัน "วิกฤตการเมืองเมียนมา"