นานาประเทศออกโรง ประณามกองทัพเมียนมา ที่ ปิดล้อมเมืองย่างกุ้ง อดีตเมืองหลวงที่ยังคงความเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ของกองทัพเมียนมาได้เปิดฉากไล่ล่าและปิดล้อมเพื่อค้นหากลุ่มนักศึกษาที่ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐประหาร ในช่วงค่ำคืนของวันจันทร์ (8 มี.ค.) จนสร้างความหวาดหวั่นระทึกใจว่าเจ้าหน้าที่จะก่อเหตุสังหารหมู่ผู้ชุมนุมเหล่านั้นหรือไม่
สื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานว่า สถานทูตสหรัฐอเมริกา สถานทูตอังกฤษ สถานทูตแคนาดา สถานทูตเยอรมนี และสถานทูตอีกหลายประเทศในเมียนมา ต่างพร้อมใจทวีตข้อความเมื่อคืนวันจันทร์ (8 มี.ค.) เพื่อเตือนว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยของเมียนมา ได้เข้าปิดล้อมย่านซานชองใกล้กับเมืองย่างกุ้ง ในขณะที่ประชาชนที่อยู่รายรอบบริเวณดังกล่าวออกมารวมตัวกันตามท้องถนนเพื่อบันทึกภาพหรือถ่ายวิดีโอสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาเผยแพร่บนโซเซียลมีเดีย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยเมียนมาได้ไล่ติดตามฝูงชน โดยมีการปาระเบิด และข่มขู่ประชาชนที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ผ่านทางหน้าต่างบ้านพักของพวกเขา ขณะที่ระบบอินเทอร์เน็ตในเมียนมายังคงไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ทำให้เป็นเรื่องยากลำบากต่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร
สถานทูตเยอรมนีประจำเมืองย่างกุ้งออกแถลงการณ์ว่า สถานทูตมีความกังวลเป็นอย่างมากต่อการรายงานว่ามีคนหนุ่มสาวจำนวนมากติดค้างอยู่ในย่านซานชอง และส่วนอื่นๆ ของย่างกุ้ง จึงขอเรียกร้องให้กองกำลังรักษาความมั่นคงของเมียนมา งดเว้นการใช้กำลังและควบคุมผู้ที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น รวมถึงบุคคลอื่นๆ อย่างเร่งด่วน และขอให้ผู้ประท้วงทุกคนเดินทางกลับบ้านในทันที
นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงข้อมูลคนใหม่ที่แต่งตั้งโดยรัฐบาลทหารเมียนมายังได้สั่งปิดและเพิกถอนใบอนุญาตสื่อท้องถิ่นจำนวน 5 ราย คือ Mizzima, DVB, 7Day News, Myanmar Now และ Khit Thit Media ที่ออกมารายงานสถานการณ์การประท้วงดังกล่าว พร้อมกับห้ามไม่ให้มีการเผยแพร่ข้อมูลหรือเนื้อหาใดๆ อีกต่อไป
พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ ได้ออกมาตำหนิการทำงานของสื่อผ่านทางสถานีโทรทัศน์ MRTV ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลเมียนมาว่า สื่อเหล่านั้นสร้างความเข้าใจที่ผิดๆ ให้แก่ประชาคมโลก โดยหน่วยงานความมั่นคงได้ใช้กำลังเพียงเล็กน้อยกับกลุ่มผู้ชุมนุม และมีผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมเพียงแค่ 34 รายเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขที่มีการรายงานโดยสื่อท้องถิ่นที่รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 50 ราย และอาจจะมากกว่านั้น
อย่างไรก็ตาม สื่อต่างประเทศรายงานว่า จากการเปิดฉากสลายการชุมนุมเมื่อคืนวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างน้อย 3 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: