สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ(สคต.) หรือทูตพาณิชย์ ณ กรุงย่างกุ้ง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา รายงานสถานการณ์ในเมียนมาว่า เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 ได้เกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจและทหารกับกลุ่มผู้ประท้วงในหลายเมืองของประเทศเมียนมา ส่งผลให้มีผู้ประท้วง เสียชีวิตเพิ่มอย่างน้อย 7 ราย ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ทางการเมืองในเมียนมารวมแล้วกว่า 65 ราย
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council) ได้ออกแถลงการณ์ว่ามีความเป็นกังวลอย่างมากต่อสถานการณ์ความรุนแรงในเมียนมา และประณามการใช้กำลังในการปราบปรามผู้ประท้วง โดยเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังและร่วมกันหาทางออกอย่างสมานฉันท์ด้วยสันติวิธี เช่นเดียวกับแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศของไทยที่หวังให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาทางออกร่วมกันอย่างสันติเพื่อเมียนมาและ ประชาชนของเมียนมา
สคต. ณ กรุงย่างกุ้งระบุว่า จากสถานการณ์การประท้วงยังคงดำเนินต่อเนื่อง มีการปิดล้อมกลุ่มผู้ประท้วงในหลายพื้นที่โดยตำรวจและทหาร ทำให้ธุรกิจร้านค้าต้องมีการปรับเปลี่ยนเวลาเปิด-ปิดในแต่ละวันในแต่ละพื้นที่ โดยธุรกิจร้านค้าที่เปิดให้บริการได้ส่วนใหญ่จะปิดให้บริการในเวลา 15.30 - 16.00 น. เพื่อเก็บของและให้พนักงานกลับได้ทันเวลา curfew (20.00 น.) อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังจับจ่ายซื้อของในห้าง/ร้าน/ซุปเปอร์มาร์เก็ต และมีการซื้อสินค้าในปริมาณมาก จนบางแห่งต้องรอต่อคิวยาวในการชำระสินค้า โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคยังเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการ
จากการที่ยังคงมีความต้องการสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคในตลาดเมียนมา ผู้ส่งออกสินค้าไทยควรประสานกับผู้นำเข้าสินค้าของเมียนมาในการจัดเตรียมขนส่งสินค้าเพื่อกระจายเข้าสู่ตลาดเมียนมาให้เพียงพอต่อความต้องการที่ยังคงมีอยู่ต่อเนื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“เมียนมา”ฟาดหาง H&M หยุดสั่งผลิตเสื้อผ้า 56 โรงงาน
“เมียนมา”ปลดล็อก 72 สินค้าเฮ ไม่ต้องขอใบอนุญาตนำเข้า
“เมียนมา” ยกระดับอารยะขัดขืน สหภาพนัดหยุดงานทั่วประเทศ หยุดเศรษฐกิจ-หยุดเผด็จการ
‘เมียนมา’แรง ธุรกิจไทยอัมพาต ต่างชาติถอนลงทุน
“โดนแล้ว”สินค้ากองทัพเมียนมา ห้าง-ร้านค้าถอดจากชั้นจำหน่าย