กูรูฟันธง "พาวเวลล์" ไม่ลด QE-ไม่สกัดบอนด์ยีลด์ หลังการประชุมนโยบายการเงินวันนี้

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำหนดจัด การประชุมนโยบายการเงิน เป็นวันที่สองในวันนี้ (17 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น)  และจะประกาศผลการประชุมในคืนนี้ ซึ่งตรงกับเวลา 01.00 น. ของวันที่ 18 มี.ค. ตามเวลาไทย โดยนักลงทุนตั้งตารอคอยถ้อยแถลงของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เนื่องจากพวกเขากำลังกังวลว่า การดีดตัวขึ้นของ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และ ตัวเลขเงินเฟ้อ ที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจจะผลักดันให้เฟดจำเป็นต้องยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หลังจากที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ต่อไปอีกราว 2-3 ปี

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.66% ในวันนี้ ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 13 เดือน หลังจากอยู่ที่ระดับเพียง 0.9% ในช่วงต้นปี

ก่อนหน้านี้ เฟดเคยส่งสัญญาณชะลอการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปี 2556 ซึ่งส่งผลให้เฟดลดการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความตื่นตระหนกจนทรุดตัวลงอย่างหนักในปีดังกล่าว

นายเอียน เชปเพิร์ดสัน หัวหน้านักวิเคราะห์ของ Pantheon Macroeconomics กล่าวว่า เขาจะรู้สึกประหลาดใจ หากนายพาวเวลล์ส่งสัญญาณว่าเฟดจะเข้าสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้ เขาเชื่อว่า ประธานเฟดจะหาทางผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อในตลาด แต่เขาจะไม่พูดว่าเฟดจะลดวงเงิน QE เนื่องจากหากนายพาวเวลล์กล่าวเช่นนั้น ก็จะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นโดยทันที ซึ่งจะเป็นการซ้ำเติมตลาดหุ้นที่กำลังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

นอกจากนี้ นายเชปเพิร์ดสัน ยังกล่าวว่า การที่นายพาวเวลล์จะยังไม่ส่งสัญญาณเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในวันนี้ เป็นสิ่งที่เหมาะสม เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงมีความไม่แน่นอน และเป็นเพียงการคาดการณ์ของตลาดเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ความเสี่ยงเงินเฟ้อและการปรับลด QE ของเฟด คือสิ่งที่นักลงทุนกังวลมากกว่าโควิด
• ผลสำรวจของ PwC เผย ซีอีโอ 3 ใน 4 คาดเศรษฐกิจโลกกลับมาโตปีนี้
• IMF คาดเศรษฐกิจโลกปีนี้ขยายตัว 5.5% อานิสงส์วัคซีนโควิด
• OECD คาดเศรษฐกิจโลกขยายตัว 5.6% ปีนี้ หากการฉีดวัคซีนดำเนินการอย่างรวดเร็ว
• คลังสหรัฐโอนเงินเยียวยาล็อตแรกให้ประชาชนแล้ว มั่นใจการจ้างงานฟื้นเต็มศักยภาพปี 65