นายบ๊อบบี้ ลี ผู้ก่อตั้งบีทีซีซี (BTCC) ซึ่งเป็นแพลทฟอร์มซื้อขาย สกุลเงินดิจิทัล กล่าววานนี้ (22 มี.ค.) ว่า บิตคอยน์ กำลังอยู่ใน ภาวะตลาดกระทิง และมีโอกาสทะยานขึ้นแตะระดับ 300,000 ดอลลาร์ หรือราว 9,300,000 บาท หากพิจารณาตามรูปแบบการปรับตัวในอดีตที่ผ่านมา
"วัฏจักรภาวะตลาดกระทิงของบิตคอยน์ จะมาทุกๆ 4 ปี และครั้งนี้ถือว่าใหญ่มาก ผมคิดว่าบิตคอยน์สามารถพุ่งแตะ 100,000 ดอลลาร์ในช่วงฤดูร้อนนี้" นายลีกล่าวพร้อมอธิบายว่า
บิตคอยน์มีวัฏจักรภาวะตลาดกระทิงขนาดใหญ่ถึง 2 ครั้งในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2560 ซึ่งในปีดังกล่าว บิตคอยน์พุ่งใกล้แตะ 20,000 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี จากระดับเพียง 1,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี
ส่วนในปีนี้ (2564) บิตคอยน์ปรับตัวอย่างร้อนแรงเช่นกัน โดยอยู่ที่ราว 30,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นปี และพุ่งทะลุ 60,000 ดอลลาร์ในต้นเดือนมี.ค.นี้ ก่อนที่จะอยู่ที่ราว ๆ 58,000 ดอลลาร์วานนี้ (22 มี.ค.)
อย่างไรก็ดี นายลีเตือนว่า บิตคอยน์ จะเผชิญภาวะ “ฟองสบู่แตก” หลังจากแตะระดับสูงสุด ซึ่งจะทำให้บิตคอยน์เผชิญช่วงขาลงเป็นเวลาหลายปี และมูลค่าบิตคอยน์อาจหายไปถึง 80-90% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ค่ำวานนี้ (22 มี.ค.) เวลา 23.08 น. ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์ ร่วงลง 0.85% สู่ระดับ 56,963.75 ดอลลาร์ ภายหลังการแสดงความคิดเห็นของ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานกลางสหรัฐ (เฟด) ใน การประชุมธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยเขาระบุว่า สกุลเงินดิจิทัล มีความผันผวนอย่างมาก จึงไม่มีประโยชน์มากนักในการเป็นสินทรัพย์ที่สามารถกักเก็บมูลค่า นอกจากนี้ สกุลเงินดิจิทัลยังไม่ได้รับการหนุนหลังด้วยสินทรัพย์อื่น แตกต่างจากสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากเฟด
เขามองว่า สกุลเงินดิจิทัล เป็นสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรมากกว่า จึงไม่ได้ถูกใช้โดยเฉพาะเพื่อเป็นสื่อกลางในการชำระเงิน ท่าทีดังกล่าวเท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดยังไม่มีความสนใจที่จะออกสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองมากนัก ผิดกับประเทศอื่น ๆบางประเทศที่แสดงท่าทีสนใจออกสกุลเงินดิจิทัล และบางประเทศมีการทดลองใช้แล้วด้วย เช่น สวิตเซอร์แลนด์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประธานเฟดส่งสัญญาณ "ไม่สน" เงินดิจิทัล ทำราคาบิตคอยน์ร่วงหลุด 57,000 ดอลลาร์
สวิตเซอร์แลนด์นำร่อง รับชำระภาษีด้วยเงินดิจิทัลสกุล “บิตคอยน์” และ "อีเธอร์"