หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า ผู้ที่ได้รับ วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วนั้นยังคงมีโอกาสที่จะติด เชื้อโควิดกลายพันธุ์ “สายพันธุ์เดลตา” แต่วัคซีนจะช่วยให้คนส่วนใหญ่ไม่ป่วยหนักหรือเสียชีวิตเพราะโควิด
ดร.ซูมยา สวามินาทาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ WHO กล่าวเมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) ว่า มีรายงานเกี่ยวกับกรณีผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว แต่ยังเกิดการติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธุ์เดลตา ที่ตรวจพบครั้งแรกในประเทศอินเดียและขณะนี้เป็นสายพันธุ์หลัก หรือ “ใกล้จะ” เป็นสายพันธุ์หลัก ในหมู่ผู้ติดเชื้อใหม่ในหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการติดเชื้อแบบไม่รุนแรงหรือไม่แสดงอาการ
ดร.ซูมยา สวามินาทาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ WHO
ทั้งนี้ ประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ และสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดหนักนั้น มีอัตราผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสูงขึ้น โดยในสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ติดเชื้อโควิดจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิตนั้น แทบจะทั้งหมดเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
ส่วนการติดเชื้อโควิดภายหลังการฉีดวัคซีนแล้วนั้น ผู้เชี่ยวชาญของ WHO กล่าวว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐที่เปิดเผยว่า ประมาณ 75% ของผู้ที่ติดเชื้อโควิดหลังฉีดวัคซีนจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตนั้น เป็นผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี
ดร.ซูมยา เตือนในตอนท้ายว่า ผู้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้ว ยังคงมีโอกาสที่จะติดเชื้อโควิดซ้ำและแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ ดังนั้น WHO จึงยังคงขอให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยและเว้นระยะทางสังคมต่อไป แต่การฉีดวัคซีนก็ยังคงมีประโยชน์ เพราะช่วยลดโอกาสที่จะป่วยหนักหรือเสียชีวิตลงได้