ชไนเดอร์เผยโรงงานไทยส่งออกอิเลคทรอนิกส์รายใหญ่

01 ต.ค. 2561 | 04:52 น.
อัพเดตล่าสุด :01 ต.ค. 2561 | 11:52 น.
ซีอีโอ ชไนเดอร์ ประกาศรุกหนักตลาดเอเชีย เผยเป็นภูมิศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตสูง ชูนวัตกรรม EcoStruxure แพลตฟอร์มด้าน IoT ที่จะเสริมศักยภาพการทำงาน และช่วยประหยัดพลังงานให้ผู้ประกอบการ พร้อมดันไทยสู่ผู้ส่งออกอิเลคทรอนิกส์ด้านพลังงาน หลังลงทุนสร้างสร้างโรงงาน

นายฌอง ปาสคาล ตริคัวร์ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำองค์กรด้านพลังงานระดับโลก เปิดเผยว่า ชไนเดอร์ฯ ให้ความสำคัญกับตลาดเอเชียมาก เพราะเป็นตลาดที่กำลังเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ ขณะนี้ชไนเดอร์มีสาขาในเอเชียจำนวนมาก อาทิ ไต้หวัน กัมพูชา มีพนักงานกว่า 40% เป็นคนเอเชีย และมีการลงทุนใน 11 ประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม โดยในไทย ชไนเดอร์ มีพนักงานเกือบ 1,000 คน

"โรงงานที่ไทย เป็นแหล่งส่งออกรายใหญ่ เราเป็นซัพพลายเอ็นเนอร์จี้ และมีเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ในการก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 และเรื่องของพลังงานสะอาด ชไนเดอร์ พร้อมสนับสนุนประเทศไทย ในการสร้างระบบ ดิจิทัล เพื่อเดินหน้าสู่ไทยแลนด์ 4.0 ตามนโยบายรัฐบาล" นายฌองกล่าว

ในปีนี้ ชไนเดอร์ให้ความสำคัญกับ EcoStruxure แพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ การเชื่อมต่อที่ดีขึ้น และยั่งยืนมากขึ้น เพราะสามารถช่วยลดการใช้พลังงานได้ด้วยในตัว นวัตกรรม EcoStruxure ถูกนำไปบรรจุในระบบการทำงานต่างๆ ทำให้ลูกค้าและคู่ค้า ก้าวสู่การปฏิรูปทางดิจิทัลได้สำเร็จ ทั้งในระบบออโตเมชัน และการจัดการพลังงาน เช่น การสร้างความเสถียรของระบบไฟฟ้า เนื่องจากมีการใช้งานมากขึ้น ระบบลีเลย์ที่สามารถควบคุมระบบไฟฟ้าระยะไกล แก้ปัญหาระบบไฟฟ้าได้มากกว่า 40% นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมที่ช่วยให้เครื่องจักรคัยกันได้ผ่านระบบคลาวด์ คนจะสามารถมอนิเตอร์การทำงานของเครื่องจักร และข้อมูล พร้อมนำมาวิเคราะห์ เพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักร ทำให้สามรถพัฒนาและสร้างโปรดักส์ใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายฌอง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกหลักการทำงานของชไนเดอร์ เน้นการเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าและพาร์ทเนอร์ จากสินทรัพย์ของลูกค้าที่ชไนเดอร์ดูแลอยู่กว่า 1.6 ล้านแห่ง และมีการเติบโตของรายได้เฉลี่ยเกือบ 30% ต่อปี

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว