นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ได้รับทราบ และพิจารณาความก้าวหน้าการดำเนินงานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (EEC) ที่สำคัญ 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1. รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมส่งมอบพื้นที่ช่วงสนามบินสุวรรณภูมิถึงสนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 170 กิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการประมาณ 5,521 ไร่ งานมีความคืบหน้า 86% ให้กับเอกชนคู่สัญญาแล้ว และพร้อมส่งมอบพื้นที่ได้ทั้งหมดภายในเดือนกันยายน 2564 นี้
“ขณะนี้เอกชนได้เข้าพื้นที่ และเริ่มออกแบบเตรียมการก่อสร้างแล้ว มั่นใจจะเปิดให้บริการช่วงพญาไท สุวรรณภูมิถึงอู่ตะเภาในปี 2568 ด้านการส่งมอบรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ พร้อมส่งมอบให้เอกชนคู่สัญญา โดยยืนยันว่าผู้โดยสารจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ระหว่างการถ่ายโอนกิจการ โดยเฉพาะเรื่องบัตรโดยสารที่สามารถใช้บัตรรายเดือนได้ตามเดิม นอกจากนี้ จะได้รับการยกระดับคุณภาพบริการที่ดีขึ้น อาทิ การปรับเปลี่ยนตู้ขนสัมภาระ จำนวน 4 ตู้ ให้เป็นตู้รองรับผู้โดยสารแทนได้มากถึง 1,000 คนต่อชั่วโมง”
2.สนามบินอู่ตะเภาฯ ที่ประชุม กบอ.รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินการโครงการฯ ที่สำคัญๆ ได้แก่ส่วนความรับผิดชอบภาครัฐ อาทิ การก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 โดยกองทัพเรือ ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเขตพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ.ได้จัดทำร่างระเบียบการปฏิบัติงานในพื้นที่เขตส่งเสริมฯ ส่วนความรับผิดชอบเอกชนคู่สัญญา (UTA) ได้เข้าสำรวจพื้นที่โครงการเรียบร้อย และได้ก่อสร้างรั้วมาตรฐานเขตการบิน (Airside) ความยาว 4.9 กิโลเมตร แล้วเสร็จประมาณ 95% และอื่นๆ พร้อมกำหนดส่งมอบตามสัญญาเดือนมิถุนายน 2564 นี้
ขณะที่กิจกรรมพัฒนาพื้นที่อุตสาหกรรมการบิน (ATZ) สกพอ.เตรียมพัฒนาพื้นที่ประมาณ 539 ไร่เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์กลางพัฒนาธุรกิจด้านอากาศยาน ซึ่งกิจกรรมใน ATZ ที่สำคัญๆ เช่น ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) เป็นต้น ปัจจุบัน สกพอ.อยู่ระหว่างการจัดทำแผนแม่บทและวางผังภายในพื้นที่กิจกรรม ATZ และมีแผนจัดทำการทดสอบความสนใจของนักลงทุน เพื่อศึกษาภาพรวมตลาดและเชิญชวนนักลงทุนในระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึงกันยายน 2564 ซึ่งการดำเนินการ ATZ คาดว่าจะเพิ่มอัตราการจ้างงานด้านอุตสาหกรรมการบินกว่า 3,000 ตำแหน่ง
3.ต้นแบบการพัฒนาเมืองเก่า ตลาดลานโพธิ์นาเกลือ ที่ประชุม กบอ.รับทราบ สกพอ.ร่วมกับเมืองพัทยา ริเริ่มโครงการก่อสร้างตลาดใหม่ลานโพธิ์นาเกลือตามแผนพัฒนาเมืองพัทยา สู่ NEO PATTAYA เพื่อเป็นโครงการนำร่องต้นแบบการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี และท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ พร้อมรักษาความเป็นเมืองเก่าของนาเกลือสู่แหล่งท่องเที่ยวชุมชน คู่ไปกับการพัฒนาเป็นตลาดอาหารทะเลชั้นนำของอีอีซี โดยนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ และเป็นโครงการต้นแบบที่สามารถดึงนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเข้าสู่พื้นที่อีอีซี สร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้แก่ชุมชนต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :