"ล็อกดาวน์" เสนาสั่งปิดแคมป์ก่อสร้างพร้อมเดินหน้าพัฒนาบ้านโซลาร์รับ WFH

12 ก.ค. 2564 | 06:01 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ค. 2564 | 13:00 น.

เสนา ปรับแผนก่อสร้างโครงการรับมาตรการล็อกดาวน์ ปิดแคมป์ก่อสร้างป้องกันเชื้อโควิ-19 แพร่กระจายของรัฐบาล เผยทิศทางตลาดบ้านโซลาร์หนุนความต้องการคนทำงาน Work From Home ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่มลดค่าใช้จ่ายครัวเรือน

นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 (Covid-19) ที่เกิดขึ้นทำให้คนต้องทำงานที่บ้านมากขึ้น หรือ Work From Home ดังนั้นโครงการที่อยู่อาศัยที่มีการติดตั้งโซลาร์รูปท็อปจึงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากบ้านกลายเป็นพื้นที่ที่ต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน ทั้งการทำงาน เรียน พักผ่อน และออกกำลังกาย เป็นต้น เนื่องจากสามารถช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ซึ่งในส่วนของเสนาได้มีการพัฒนาโครงการบ้านที่ติดตั้งโซลาร์ ที่สามารถผลิตไฟฟ้าใช้ภายในบ้านได้เอง จึงเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ ปัจจุบันเสนาได้มีการพัฒนาบ้านที่อยู่อาศัยและมีการติดโซลาร์บนหลังคาให้กับบ้านทุกซีรี่ย์ ตั้งแต่ ทาวน์โฮม คอนโด และบ้านเดี่ยว มั่นใจว่าบ้านโซลาร์สามารถให้ประโยชน์ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

ทั้งนี้ จากที่รัฐบาลได้มีการออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 (ล็อกดาวน์) ที่มีการกระจายอย่างรวดเร็วส่งผลกลุ่มคลัสเตอร์เป็นจำนวนมากในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมลฑล ทางเสนาได้มีการปรับวิธีการดำเนินงานเพื่อให้สอดรับกับมาตรการของรัฐในการปิดแคมป์คนงานก่อสร้างแบบบับเบิ้ลแอนด์ซิล โดยการเข้าไปช่วยเหลือคนงานในด้านต่างๆ

\"ล็อกดาวน์\" เสนาสั่งปิดแคมป์ก่อสร้างพร้อมเดินหน้าพัฒนาบ้านโซลาร์รับ WFH

ทั้งการจัดส่งอาหาร จัดจุดคัดกรอง และทำการตรวจหาเชื้อในกลุ่มคนงานและคัดแยก เพื่อเป็นการควบคุมให้อยู่ในวงจำกัด เพื่อความมั่นใจให้กับคนงานและผู้รับเหมาทั้งในเรื่องในการดูแลความเป็นอยู่ของคนงานและด้านสุขอนามัย ในช่วงที่มีการปิดแคมป์คนงานซึ่งจะทำให้จำนวนคนงานไม่มีการเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่อื่น

อย่างไรก็ดี จากมาตรการของรัฐ อาจจะทำให้การพัฒนาโครงการต่างๆของบริษัท ต้องล่าช้าไปอีกอย่างน้อย 1 เดือน เนื่องจากปัจจุบันเสนา มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 40 โครงการทั้งในกรุงเทพฯ และ ปริมลฑล โดยแยกออกเป็น    10 โครงการอยู่ระหว่างการทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือ  EIA และอีก 30 โครงการ อยู่ระหว่างการก่อสร้างและตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนส่งมอบและอีกส่วนเป็นการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคทั้งระบบบำบัดน้ำ ถนนในโครงการ รวมถึงสโมสร ขณะเดียวกันในส่วนเรื่องแรงงานก่อสร้าง อาจจะมีการเคลื่อนย้ายแหล่งทำงานใหม่นอกพื้นที่ควบคุมเพราะคนงานเหล่านี้จำเป็นต้องมีรายได้เพื่อเลี้ยงชีพอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้แม้ว่ารัฐบาลจะมีการปลดล็อค อาจจะส่งผลให้จำนวนแรงงานที่จะกลับเข้าสู่ระบบไม่เป็นไปตามความต้องการของภาคก่อสร้าง