“จุรินทร์”สั่งเดินหน้า ดันสินค้าเมกะเทรนด์โลกขนเงินเข้าประเทศ

19 ก.ค. 2564 | 09:33 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ค. 2564 | 17:20 น.

“จุรินทร์”เดินหน้าผลักดันส่งออกสินค้าตอบโจทย์เมกะเทรนด์โลก ชี้เป็นสินค้ามูลค่าสูง ทำเงินเข้าประเทศได้เพิ่มขึ้น เน้นสินค้าไลฟ์สไตล์ที่พัฒนาจากวัสดุเหลือใช้ ส่วนธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากโควิด-19 ให้ลุยต่อ รวมถึงสินค้าที่ตอบสนองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ  

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทำแผนเร่งรัดการส่งออกสินค้าที่ตอบโจทย์เมกะเทรนด์ของโลกให้มากขึ้น เพราะถือเป็นอนาคตของการส่งออกของไทย และเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง สามารถเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และทำเงินเข้าประเทศได้ดีกว่าการส่งออกสินค้าขั้นปฐมเพียงอย่างเดียว

“จุรินทร์”สั่งเดินหน้า  ดันสินค้าเมกะเทรนด์โลกขนเงินเข้าประเทศ
 สำหรับสินค้าที่ต้องเร่งผลักดันการส่งออก ได้แก่ สินค้าไลฟ์สไตล์ ที่พัฒนามาจากวัสดุเหลือใช้ หรือผลผลิตเหลือใช้ทางการเกษตร และขยะคุณภาพดีจากแหล่งอุตสาหกรรม ที่นำมาแปรรูปและออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่เชิงสร้างสรรค์

“จุรินทร์”สั่งเดินหน้า  ดันสินค้าเมกะเทรนด์โลกขนเงินเข้าประเทศ

“จุรินทร์”สั่งเดินหน้า  ดันสินค้าเมกะเทรนด์โลกขนเงินเข้าประเทศ

สินค้าในกลุ่มอาหารแปรรูป เกษตรแปรรูป และสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร ที่ได้รับการพัฒนาด้านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (circular packaging) เพื่อตอบโจทย์เทรนด์เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) โดยต้องดำเนินการพัฒนาและส่งเสริมด้านการตลาด ผ่านการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างภาพลักษณ์สินค้า BCG ของไทยในตลาดต่างประเทศ
    “จุรินทร์”สั่งเดินหน้า  ดันสินค้าเมกะเทรนด์โลกขนเงินเข้าประเทศ       
นอกจากนี้ ให้เน้นอาหารอนาคต (future food) ซึ่งประกอบด้วย 4 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.อาหารฟังก์ชั่น (functional food) 2.อาหารนวัตกรรมใหม่ (novel food) 3.อาหารทางการแพทย์ (medical food) และ 4.อาหารอินทรีย์ (organic food) เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในด้านต่างๆ เช่น การเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เพื่อโภชนาการเฉพาะบุคคล สุขภาพจิตที่ดี เพื่อโภชนาการรูปแบบใหม่ที่ไม่บริโภคอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์ (Plant-based) และอาหารผู้สูงอายุ เป็นต้น โดยมีตลาดส่งออกเป้าหมายหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย

“จุรินทร์”สั่งเดินหน้า  ดันสินค้าเมกะเทรนด์โลกขนเงินเข้าประเทศ

ขณะเดียวกัน ต้องให้ความสำคัญกับอาหารมังสวิรัติ ที่มีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอินเดีย สินค้าฮาลาล ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่อาหาร แต่ให้รวมถึงสินค้าแฟชั่นและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องสำอาง โดยมีตลาดเป้าหมายในกลุ่มประเทศมุสลิม เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย ซาอุดิอาระเบีย อียิปต์ UAE เป็นต้น และตลาดในประเทศที่ไม่ใช่มุสลิม แต่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มาก เช่น อินเดีย จีน รัสเซีย เป็นต้น รวมถึงสมุนไพร เครื่องสำอาง ที่กำลังเติบโตดี โดยมีตลาดเป้าหมาย เช่น จีน เวียดนาม รัสเซีย

ส่วน ธุรกิจบริการ ให้เน้นความสำคัญกับการส่งเสริมธุรกิจบริการมูลค่าสูง ได้แก่ บริการสุขภาพ เช่น สปา โรงพยาบาล คลินิกเฉพาะทาง ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ดิจิทัลคอนเทนต์ เช่น เกม คาแรคเตอร์ ซอฟต์แวร์ โซลูชัน แอนิเมชัน โฆษณา โพสต์ โปรดักชัน ภาพยนตร์และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นแหล่งเอ้าท์ซอสงานระดับสูง และเป็นผู้นำด้านไอพีของตลาดเอเชีย

“จุรินทร์”สั่งเดินหน้า  ดันสินค้าเมกะเทรนด์โลกขนเงินเข้าประเทศ
“สินค้าที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์โควิด-19 ให้เร่งรัดผลักดันการส่งออกต่อไป เช่น สินค้าเกษตร และอาหาร ทั้งอาหารคน และอาหารสัตว์เลี้ยง สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน และสินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและเพื่อสุขภาพและอนามัย รวมถึงสินค้าที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เช่น ชิ้นส่วนอุปกรณ์และส่วนประกอบยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรกลการเกษตร สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง”