นายนิพนธ์ สมิทธาพิพัฒน์ เลขาธิการ สมาคมโรงสีข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” เรื่องปัญหาราคาข้าวเหนียวตกต่ำ สืบเนื่องจากมีประเด็นในโลก Social
ที่ชาวนาร้องว่าขายข้าวเหนียวได้ราคาตันละไม่ถึง 5,000 บาทนั้น ด้วยในสถานการณ์ปัจจุบันที่ตลาดข้าวได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิท-19 ส่งผลให้การบริโภคข้าวภายในประเทศนั้นลดลง อันทำให้ราคาข้าวเปลือกและข้าวสารในประเทศนั้นปรับตัวลดลงมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นปี
ดังที่ทางนายกสมาคมโรงสีข้าวไทยได้ให้ข้อมูลไปก่อนนี้นั้น ข้าวเหนียวดูจะเป็นข้าวที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด นั่นเป็นเพราะโดยธรรมชาติแล้วข้าวเหนียวจะใช้เพื่อการบริโภคภายในประเทศกว่า 90% ดังที่เราจะเห็นได้ว่าปีไหนที่ข้าวเหนียวน้อย ราคาก็จะขึ้นไปแพงมากข้าวสดตันละหมื่นกว่า พอราคาแพงชาวนาก็หันมาปลูกกันมาก ของล้นตลาดราคาก็ตกต่ำ เป็นวงจรอย่างนี้เรื่อยไป นั่นเพราะเราไม่มีตลาดส่งออกช่วยระบายในสภาวะที่ผลผลิตออกมากจนล้นตลาด
แต่ปีนี้จะพิเศษกว่าทุกๆครั้ง เพราะการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา ทำให้ประชาชนงดการเดินทาง มีกิจกรรมน้อยลง และมาตรการต่างๆที่ภาครัฐออกมาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด อย่างการห้ามนั่งทานอาหารในร้าน งดจัดงานเลี้ยง งานสัมมนา ประชาชนไม่เดินทางท่องเที่ยว ทำให้การบริโภคข้าวเหนียวลดน้อยลงไปมาก ประกอบกับอาหารอย่างข้าวเหนียวส้มตำไม่ได้รับความนิยมในสถานการณ์การแพร่ระบาด เพราะประชาชนเริ่มตระหนักเรื่องอาหารสะอาดปรุงสุกมากขึ้น
สำหรับผู้ประกอบการอย่างโรงสี หรือผู้ค้าข้าวต่างก็ขายสินค้าไม่ค่อยออกและยังมีสต๊อกอยู่ในมือค่อนข้างมาก จึงทำให้ราคาข้าวเหนียวในปัจจุบันตกต่ำอย่างที่ทราบกัน จากข้อมูลที่ทางสมาคมได้รับจากสมาชิก ราคาข้าวเหนียวสดในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณตันละ 5,700-6,200 บาท ส่วนหนึ่งเป็นเพราะธรรมชาติของข้าวเหนียวเป็นข้าวความชื้นสูงมาก จึงทำให้ราคาข้าวเปลือกสดจะถูกกว่าข้าวชนิดอื่นที่ราคาพอๆกัน
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับข้าวทุกชนิดนั้น ทางสมาคมได้สะท้อนให้กับภาครัฐรับทราบมาโดยตลอดเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป ทั้งนี้ขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวนาทุกท่านฝ่าฟันปัญหาไปด้วยกัน เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะเป็นปัญหาเพียงชั่วคราว