นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวในงานเสวนา EEC Future : เอกชนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ฟื้นเศรษฐกิจไทย จัดโดย “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า โครงการที่ กนอ.รับผิดชอบและให้ความสำคัญในพื้นที่อีอีซีในฐานะโครงการที่เป็นเรือธงได้แก่ โครงการสมาร์ทปาร์ค ในพื้นที่ 1,383 ไร่ และโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 พื้นที่ 1,000 ไร่ ในจังหวัดระยอง
ทั้งนี้ พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสมาร์ทปาร์ค ได้ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายหลักของประเทศ ใน New S-Curve ในกลุ่ม 4 อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมการแพทย์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล หากมีการลงทุนเต็มพื้นที่ จะช่วยสร้างมูลค่าจีดีพีของประเทศถึง 53,000 ล้านบาท และสามารถเพิ่มการจ้างงานของบุคลากร 7,500 คน สร้างเงินหมุนเวียน 1,400 ล้านบาทต่อปี และยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนรอบพื้นที่
ขณะที่โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ที่ร่วมทุนกับภาคเอกชนนั้น ได้เตรียมพื้นที่ไว้ประมาณ 1,000 ไร่ มูลค่าการลงทุน 5.54 หมื่นล้านบาท แบ่งการลงทุน เป็นสองช่วง คือ ช่วงที่เป็นงานถมทะเล 1.29 หมื่นล้านบาท และท่าเทียบเรือการลงทุน 3.5 หมื่นล้านบาท จากนั้นในช่วงที่ 2 เป็นการลงทุนท่าเทียบเรือสินค้าเหลว 4.3 พันล้านบาท และการลงทุนคลังสินค้า 3.2 พันล้านบาท โดยโครงการนี้จะมีประโยชน์กับประเทศได้แก่การเกิดท่าเรือขนาดใหญ่ของอาเซียน ท่าเรือที่สามารถรองรับการนำเข้าก๊าซ LNG การสร้างงานเพิ่มขึ้นให้กับงานคนในพื้นที่