นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่าปัจจุบันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่มีศักยภาพ มีความพร้อมรองรับการลงทุนจากต่างชาติ อาทิ โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ประกอบกับสถานการณ์การเมืองในฮ่องกง ทำให้ชาวฮ่องกงมีความต้องการอพยพย้ายออกจากฮ่องกง โดยไทยเป็นจุดหมายอันดับต้น ๆ ของชาวฮ่องกง เนื่องจากไทยมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่คล้ายคลึงกัน และราคาที่พักอาศัยของไทยที่มีราคาถูกกว่ามาก ซึ่งเหมาะสมสำหรับชาวฮ่องกงในการพิจารณาซื้อเพื่อประกอบธุรกิจหรือใช้เป็นบ้านหลังที่ 2 รวมทั้งเพื่อใช้สำหรับการพักผ่อนระยะยาว
ดังนั้นได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ ที่ประจำการอยู่ในประเทศที่เป็นเป้าหมายในการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีความมั่งคั่งให้เข้ามาพักอาศัยระยะยาวในเมืองไทย ตามมาตรการกระตุ้นการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในไทย โดยได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยในตลาดฮ่องกง ในหัวข้อ Property Investment in Thailand ณ ตึก California Tower ย่าน Lan Kwai Fong เพื่อ ประชาสัมพันธ์ให้ชาวฮ่องกงซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทย เพื่อใช้เป็นบ้านหลังที่ 2 และใช้เพื่อการพักผ่อนระยะยาว เพราะปัจจุบันอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงมีราคาสูงมาก ยากต่อการเป็นเจ้าของ ประกอบกับชาวฮ่องกงมีความต้องการที่จะย้ายถิ่นฐานออกไปต่างประเทศ และมีความชื่นชมและมองไทยเป็นประเทศปลายทางยอดนิยม ยิ่งนโยบายรัฐบาลเอื้อต่อการเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติ จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะจับตลาดลูกค้าชาวฮ่องกงได้เพิ่มขึ้น
โดยในการจัดงานครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยมีการจัดคูหาประชาสัมพันธ์ และการนำเสนอในรูปแบบ Virtual Showcase ผ่านระบบเครือข่ายดิจิทัลผ่านสื่อออนไลน์ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระหว่างไทยและฮ่องกง โดยมีผู้เข้าร่วม อาทิ MQDC แมคโนเลีย กรุ๊ป , The Strand , พฤกษา , แสนสิริ , Fraser , Richy , Elite Thai Visa Program , ธนาคารกรุงเทพ , ธนาคารกสิกรไทย , โรงเรียนนานาชาติ Harrow และ Shrewbury รวมถึง บริษัท HPA และ รีสอร์ท Aqualla จังหวัดพังงา และ Andara จังหวัดภูเก็ต ซึ่ง Virtual Showcase นี้ เข้าถึงผู้ชมทันทีถึงกว่า 600 ราย ซึ่งสำนักงานฯ ได้ลงคลิปของการจัดงานดังกล่าวในเฟซบุ๊ก Thai Trade Centre Hong Kong เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถดูย้อนหลังได้ และเข้าถึงผู้ประกอบการไทย และชาวฮ่องกงได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย
พร้อมกันนี้ มีธนาคารกรุงเทพ สาขาฮ่องกง , LKF Group , ArCarl Limited , โรงเรียนนานาชาติ Harrow และโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury ที่เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยว่าไทยมีจุดได้เปรียบในด้านค่าครองชีพที่ไม่สูง มีห้างสรรพสินค้าชั้นนำ โรงพยาบาล สถานศึกษา และสิ่งอำนวยความสะดวกตอบโจทย์การใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าศักยภาพที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเมื่อมีมาตรการรัฐเป็นตัวช่วยยิ่งทำให้อสังหาริมทรัพย์ไทยมีจุดขายเพิ่มมากขึ้น