นายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล หรือ "เฮียหลี"กรรมการผู้จัดการ บริษัท พี.เค.มารีน เทรดดิ้ง จำกัด (บจก.) ผู้ประกอบการขนส่งทางเรือและท่าเทียบเรือ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ราคาปาล์มในช่วงนี้ ที่ร้อนแรง เป็นไปตามราคาราคาตลาดโลก ทั้งที่ผลผลิตของมาเลเซียไม่ได้ลด ประกอบกับมีปัญหาเรื่องโควิดต่างชาติเข้าไม่ได้ก็ทำให้ปาล์มไม่มีคนเข้าไปตัดในสวน ทำให้ผลผลิตลดลง ทั้งที่ผลผลิตความจริงไม่ได้ลดลง แต่ไม่มีแรงงานเข้าไปตัดปาล์มเพื่อผลิตเป็นน้ำมัน เกษตรกร หรือชาวสวนปาล์มก็เกิดความเสียหาย ปาล์ม ร่วงเน่า เสีย นี่คือประเด็นที่ 1
ส่วนประเด็นที่2 ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ร่วม 2 ปี ทางสหรัฐเมริกาติดโควิดตั้งแต่เริ่มต้นก็มีปัญหาไม่มีชาวไร่ที่จะไปปลูกถั่วเหลืองทำให้ผลผลิตลดลง ราคาถั่วเหลืองก็ขยับขึ้น ขณะที่ปาล์มมาเลเซีย แม้ว่าผลผลิตไม่ได้ลด แต่ไม่มีแรงงานเข้าไปตัดมีความเสียหาย ส่วนถั่วเหลืองเป็นพืชล้มลุกที่จะต้องปลูกตามฤดูกาล ตอนช่วงมีโควิด คนไปปลูกน้อยลง ผลผลิตน้อยลง ทำให้ซัพพลายน้อยลง แต่ดีมานด์ยังพอมีอยู่ มากกว่าซัพพลาย ราคาถั่วเหลืองขยับขึ้น เพราะฉะนั้นการที่น้ำมันปาล์มที่ราคาร้อนแรงขึ้นมาจากปัจจัย 2 เด้งที่ได้กล่าวไปแล้ว
ราคาเมืองไทย ก็ต้องตามราคาตลาดโลก ส่วนผลผลิตในประเทศที่เกินโอเวอร์ซัพพลายก็ต้องดันออกไปส่งขายตลาดต่างประเทศ ซึ่งขายได้ในราคาที่สูงกว่า ก็เป็นไปตามกลไกตลาด มองว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ไปถึงกลางปี 2565 นับว่าเป็นปีทองของเกษตรกร เป็นข่าวดีของเกษตรกรภาคใต้ ไม่เคยมีราคาอย่างนี้มานานมาก แม้ว่าผลผลิตจะมีไม่น้อย แต่ได้ราคาที่เหมาะสม
สอดคล้องกับนายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ประธานกลุ่มคนปลูกปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทยและกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน จังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตลาดโลกมีความต้องการสูง โดยเฉพาะประเทศอินเดีย ตอนนี้รับซื้อไม่อั้นได้ราคาดีกว่า ราคาที่ขายได้ อัตราน้ำมัน 22% ราคา 10.20 บาท/กิโลกรัม เป็นราคาที่สูงสุดในรอบ 10 ปี
"ปาล์ม เกษตรกรกว่าจะผ่านจุดนี้มาได้ ขาดทุนมาหลายปี เมื่อ 3 ปีที่แล้วก็มีการลดพื้นที่ปลูก เช่นเดียวกับอินโดนีเซีย ก็ไม่ได้ขยายพื้นที่เพิ่ม ไทยเองก็ปล่อยไม่คุ้มที่จะดูแล ขาย 1.80- กว่า 2 บาท/กก. ทำให้กระทบต้นพันธุ์ก็ไม่มีคนซื้อ ขายไม่ออก เรียกว่าซื้อต้น แถมต้น ก็ไม่มีคนปลูก ตอนนี้ราคาต้นละ 300 บาท คนแย่งกันปลูก ต้องจองข้ามปี แล้วต้องจ่ายเงินมัดจำก่อน 50% ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์แบบนี้มาก่อนเลย"