วันที่ 12 พ.ย. 64 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงมติศบค.ชุดใหญ่ ล่าสุดว่า ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ยังไม่คลายล็อกดาวน์ดาวน์ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ โดยมีมติให้เลื่อนเปิดจากกำหนดเดิม 1 ธันวาคม 64 เป็น 16 ม.ค. 65
โดยเหตุผลของศบค.ในการยังไม่คลายล็อกดาวน์สถานบันเทิงเนื่องจากข้อมูลพบว่า เป็นกิจการที่มีความเสี่ยงเกิดการระบาดใหญ่ และเป็นต้นเหตุในการระบาดในชุมชน และต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ต้องดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวของต้องกำกับมาตรการอย่างเคร่งครัด
"ในที่ประชุมได้มีการหารือกันถึงกรณีสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ก่อนหน้านี้มีแนวคิดจะให้เปิดกิจการได้ในเดือน ธ.ค. แต่กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาในหลายคณะกรรมการแล้วเห็นว่าขอให้เลื่อนออกไปก่อน เพราะมีความห่วงใยเรื่องระบบระบายอากาศ ความแออัด และการควบคุมที่ต้องเข้มข้นมาก จึงให้ใช้เวลาระหว่างวันที่ 16 พ.ย.64 -15 ม.ค.65 ให้ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อม และให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขจัดทำมาตรการป้องกันควบคุมโรค และการปรับปรุงระบบระบายอากาศ"
ขณะที่ผู้ประกอบการให้ดำเนินการปรับปรุงระบบระบายอากาศของตัวเองให้ได้มาตรฐาน รวมถึงส่งเสริมให้บุคลากรของตัวเองได้รับวัคซีนทุกคน จากนั้นให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครจัดตั้งทีมประเมิน หากทำได้ตามมาตรฐานก็จะให้เปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.65 เฉพาะพื้นที่สีเหลืองและพื้นที่สีฟ้าเท่านั้น
ทั้งนี้ต้องมีการประเมินสถานการณ์ และการได้รับวัคซีนของแต่ละพื้นที่อย่างรอบคอบก่อนเปิดดำเนินการ
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มติที่ประชุมศบค. เห็นชอบ การปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด ประกอบด้วย
ขณะที่ปรับจังหวัดจันทบุรีเพิ่มในพื้นที่ควบคุมสูงสุด รวมเป็น 39 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 23 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด พื้นที่สีฟ้า 4 จังหวัด ยังคงปิด
นายธนกร กล่าวว่า ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และเห็นชอบเลื่อนการเปิดบริการจากแผนเดิม จาก 1 ธ.ค. เป็น 15 ม.ค. เพื่อเตรียมการ และประเมินสถานการณ์การระบาด และความครอบคลุมการได้รับวัคซีน
โดยมอบหมาย ศปก.ศบค., มท., สธ. คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับผู้ประกอบการ เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดสถานบันเทิงฯ และกำกับติดตามมาตรการ ป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 แบบบูรณาการอย่างต่อเนื่อง