ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ที่อุทยานศิลปวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำทีมแถลง การเตรียมความพร้อมเปิดรับการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้ชื่อ “Blooming Chiang rai" หรือ "บานสะพรั่ง ณ เชียงราย” ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม เป็นต้นไป
กิจกรรมนี้มีนายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) เชียงราย นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงราย และ ดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ร่วม
ทั้งนี้ ก่อนที่จะเริ่มการแถลงข่าวได้มีการแสดงตีกลองสะบัดชัยและการฟ้อนรำอย่างสวยงาม สร้างความประทับใจให้กับตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และสื่อมวลชนที่ร่วมงานเป็นอย่างมาก
นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมาประชาชนชาวเชียงรายได้ทนทุกข์ เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ปัจจุบันมีชาวเชียงรายที่ได้วัคซีนป้องกันแล้ว 58.90% และทางสาธารณสุขได้เร่งทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนให้มากที่สุด และก่อนถึงวันที่ 1ธันวาคม นี้จะมีวัคซีนถึงประชาชนมากกว่า 70% แน่นอน
ทางจังหวัดจึงได้ประกาศเปิดการท่องเที่ยว เพราะเศรษฐกิจเชียงรายกว่า 70% มาจากภาคการท่องเที่ยว โดยทางจังหวัดได้กำหนดพื้นที่รองรับ 11 อำเภอ ที่เป็นพื้นที่ปลอดภัย(บลูโซน) และได้มีการส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้เรียบร้อย
ทั้งนี้เป็นที่น่ายินดีเมื่อก่อนจะเปิดการท่องเที่ยว ได้มีผู้คนเดินทางไปเยือนเชียงรายอย่างคึกคัก โดยเครื่องบินเดิมมีวันละเพียงประมาณ 10 เที่ยวบินต่อวัน ได้เพิ่มเป็นกว่า 33 เที่ยวบินต่อวันแล้ว และมีผู้เดินทางไปมาทางเครื่องบินวันละกว่า 4,000 คน โดยเฉพาะวันเสาร์และอาทิตยจะคึกคักอย่างมาก
นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานเชียงราย กล่าวว่า ก่อนช่วงวิกฤติโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวไปเยือนเชียงรายปีละประมาณ 4 ล้านคน สร้างรายได้เข้าจังหวัดประมาณ 40,000 ล้านบาท ต่อมาปี 2563 จำนวนนักท่องเที่ยวได้ลดลงเหลือเพียงประมาณ 2 ล้านคน รายได้เข้าจังหวัดเหลือประมาณ 15,000 ล้านบาท ซึ่งสถานการณ์เหมือนกันทั่วไป
ดังนั้น การเปิดการท่องเที่ยวจังหวัดครั้งใหม่ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยทาง ททท.สำนักงานเชียงราย ได้เข้าไปดำเนินการเกี่ยวกับผู้ประกอบการต่าง ๆ จนได้มาตรฐาน SHA แล้วประมาณ 250 ราย และเมื่อรวมกับมาตรฐานเครือข่ายอื่น จะมีประมาณ 350 รายแล้ว ขณะที่มาตรฐาน SHA PLUS ซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องฉีดวัคซีน 70% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ ดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ในฐานะตัวแทนภาคเอกชนของจังหวัดเชียงราย ได้ยืนยันว่า ภาคเอกชนในจังหวัดเชียงรายมีความพร้อม ที่จะเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่
ขณะเดียวกันก็ยังมีแรงสนับสนุนจากองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อาทิสายการบินต่าง ๆ เช่น สายการบินเวียตเจ็ทแอร์ ที่จัดโปรโมชั่นราคาตั๋วเครื่องที่ต่ำกว่าราคาปกติ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย และยังจะมีสายการบินอื่น ๆ บริษัทนำเที่ยว สถานประกอบการต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงราย จะจัดโปรโมชั่นต้อนรับการเปิดเมืองเชียงรายในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ทางด้านองค์กรปกครองท้องถิ่นขนาดใหญ่ ที่จะมีกิจกรรมมาส่งเสริมเทศกาล “Blooming Chiang rai" หรือ "บานสะพรั่ง ณ เชียงราย” โดยนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)เชียงราย ยืนยันว่า อบจ.เชียงรายพร้อมจัดงานมหกรรมไม้ดอกเชียงราย (CHIANGRAI FLOWER AND ART FESTIVAL) ระหว่างวันที่ 18 ธ.ค.2564 ถึงวันที่ 1 ม.ค.2565 ณ สวนไม้งามริมน้ำกก ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย
ขณะที่ส่วนนายวันชัย จงสุทธนามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ก็ยืนยันว่า เทศบาลนครเชียงรายพร้อมจัดงาน "เชียงรายดอกไม้งาม" ระหว่างวันที่ 24 ธ.ค.2564 - 9 ม.ค.2565 ณ สวนตุงและโคม นครเชียงราย ถนนธนาลัย อำเภอเมืองเชียงราย โดยนายกเทศมนตรีนครเชียงรายระบุด้วยว่า ในอนาคตหากสถานการณ์ดีขึ้น เทศบาลนครเชียงราย จะพิจารณานำกิจกรรมอื่นๆ ที่เคยมีมาในอดีต เช่น ประเพณีตักบาตรดอกไม้ ประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน ฯลฯ กลับมาถือปฏิบัติกันอีกครั้ง
สำหรับจังหวัดเชียงรายจัดเป็น 1 ในจังหวัดที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะที่ 2 โดยพิจารณาจากสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งหมด มีสินค้าการท่องเที่ยวด้านศิลปะวัฒนธรรม และมีพรมแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจังหวัดเชียงรายเป็นหนึ่งในจังหวัดที่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว
สอดคล้องกับเป้าหมายของจังหวัดเชียงรายที่จะเปิดรับการท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ในพื้นที่ Blue Zone นำร่อง 11 อำเภอ ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวและเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด ประกอบด้วย อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอพาน อำเภอเชียงของ อำเภอเทิง อำเภอเวียงแก่น อำเภอแม่สรวย อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่สาย อำเภอแม่ฟ้าหลวง และอำเภอเวียงป่าเป้า
โดยพื้นที่ที่เป็น Blue Zone ของจังหวัดเชียงราย ผ่านเกณฑ์การได้รับวัคซีน กล่าวคือประชาชนกลุ่ม 608 ต้องได้รับวัคซีนครบไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 กลุ่มประชาชนทั่วไปต้องได้รับวัคซีนครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 สถานที่ท่องเที่ยวนั้นจะต้องผ่านการประเมิน COVID-Free Setting คือมีการระบายอากาศที่ดี ไม่แออัด สามารถเว้นระยะห่าง ผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการ พนักงาน ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และมีการตรวจ ATK ทุกสัปดาห์
และลูกค้าหรือผู้มาใช้บริการต้องให้ความร่วมมือกับมาตรการของสถานประกอบการ มีหลักฐานยืนยันการฉีดวัคซีนหรือผลการตรวจ ATK เป็นลบภายใน 7 วัน ส่วนสถานบริการและที่พักที่จะรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จะต้องผ่านการประเมินมาตรฐาน SHA+ ด้วย
ส่วนนักท่องเที่ยวที่จะทางเข้ามาจังหวัดเชียงราย และผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หรือมีผลตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR หรือ ATK เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง ต้องสวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างอย่างเคร่งครัด
สำหรับงาน Blooming Chiangrai บานสะพรั่ง เชียงราย หมายถึงความเบ่งบาน เบิกบานตระการตาของดอกไม้ ผู้คน และศิลปวัฒนธรรม มีกำหนดจัดงาน Grand Opening ขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 ธันวาคม 2564 ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ศาลากลางหลังแรก) โดยจะจัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนา ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของเชียงราย และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย