หลังจากความพยายามทุ่มเทเกือบ 8 ปี โดยผู้นำRCEPได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามความตกลงอาร์เซ็ป ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของสมาชิกที่จะสนับสนุนการค้าและการลงทุนที่เปิดกว้าง ครอบคลุม เป็นไปตามกฎกติกาของโลก เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชน และสร้างความแข็งแรงให้กับห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาค โดยความตกลงอาร์เซ็ปจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ผ่านกระบวนการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดที่เข้มข้น และทำให้ทุกประเทศในภูมิภาคเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน
และล่าสุดประเทศสมาชิก RCEP ได้ให้สัตยาบันครบแล้วตามที่ความตกลงกำหนดไว้ ประกอบด้วย อาเซียน 6 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา สปป.ลาว สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม และนอกอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ ทำให้ความตกลง RCEP จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 มกราคม 2565
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โดยหลังจาก RCEP มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 65 ส่งผลให้สินค้าไทยได้ลดภาษีเหลือ 0% ทันทีกว่า 2.9 หมื่นรายการ ซึ่งสินค้าที่ประเทศสมาชิก RCEP (non ASEAN)ไม่ว่าจะเป็น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ที่ยกเลิกภาษีนำเข้าให้ไทย และอาเซียน ในทันทีที่ความตกลงมีผลบังคับใช้ (ณ วันที่ 1 มกราคม 2565) โดยสินค้าไทยที่ได้อานิสงส์จากการที่จีน ยกเลิกเก็บภาษีนำเข้า มี67.3% ของรายการสินค้าทั้งหมดที่ยกเลิกภาษีทันที ประกอบด้วย สินค้าอุตสาหกรรม เช่น วงจรรวมที่ใช้ในทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนประกอบอุปกรณ์เชิงทัศนศาสตร์ ไม้ ส่วนประกอบเครื่องโทรศัพท์ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้า น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เม็ดพลาสติก (โพลิโพรพิลีน)
เกาหลีใต้ กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่ง 61.5% ของรายการสินค้าทั้งหมดที่ยกเลิกภาษีทันที เช่น น้ำมันปิโตรเลียมดิบ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เครื่องซักผ้า ตู้เย็นและส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ อุปกรณ์สำหรับถ่ายรูป เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับให้และรับสัญญาณ ชิ้นส่วนอุปกรณ์บันทึกภาพและเสียง ฟิวส์ หม้อแปลงไฟฟ้า ผ้าทอทำด้วยฝ้ายและใยประดิษฐ์ น้ำตาล
ญี่ปุ่น 73% ของรายการสินค้าทั้งหมดที่ยกเลิกภาษีทันที เป็นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร ประกอบด้วย เครื่องโทรศัพท์ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ วงจรรวมที่ใช้ในทางอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องพิมพ์ เครื่องปรับอากาศ กล้องถ่ายภาพและวิดีโอ ชิ้นส่วนอุปกรณ์สำหรับเครื่องรับสัญญาณและโทรทัศน์ ประตูหน้าต่างอะลูมิเนียม ชุดสายไฟ ยางแผ่นรมควัน อาหารสุนัขหรือแมว
นิวซีแลนด์ 64.6% ของรายการสินค้าทั้งหมด ที่ยกเลิกภาษีทันที เป็นสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น ยางล้อรถยนต์ ปลาทูนากระป๋อง อาหารเลี้ยงสัตว์ น้ำมันปิโตรเลียมอื่นๆ แชมพู เครื่องแต่งกายและของประกอบกับเครื่องแต่งกายอื่นๆ (รวมถึงถุงมือ) ซึ่งทำจากยางวัลแคไนซ์ ชิ้นส่วนเครื่องยนต์สันดาปภายใน หม้อสะสมไฟฟ้า ลวดและเคเบิล เก้าอี้นั่งทำด้วยไม้
ออสเตรเลีย 75.3% ของรายการสินค้าทั้งหมด ที่ยกเลิกภาษีทันที่ เป็นสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมอาหาร ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ ปลาทูนากระป๋อง ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า เครื่องประดับเงินและโลหะมีค่าอื่นๆ ยางล้อรถยนต์/รถบัส/รถบรรทุก กระสอบถุงพลาสติก อาหารปรุงแต่ง อุปกรณ์เชิงทัศนศาสตร์ เครื่องสำอางค์ สบู่ แชมพู น้ำผลไม้
ทั้งนี้ ความตกลง RCEP จะเป็นความตกลงการค้าเสรี (FTA) ฉบับที่ใหญ่ที่สุดในโลก และถือเป็น FTA ฉบับที่ 14 ของไทย โดยมีสมาชิก 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 10 ประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีประชากรรวมกัน 2,300 ล้านคน (30.2% ของประชากรโลก) GDP รวมมูลค่า 28.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (33.6% ของ GDP โลก) และมูลค่าการค้ารวม 10.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (30.3% ของมูลค่าการค้าของโลก)