ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์” ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ (TDRI) กล่าวว่าผลกระทบจากการประกาศควบรวมกิจการระหว่าง ทรู - ดีแทค โดยมีการทำ MOU ระหว่างกันเรื่องศึกษาการควบรวมธุรกิจ โดยจะมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา เพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยี (Technology Company) นั้น
ผู้ประกอบการทั้ง 3 รายได้ประโยชน์ โดยดูได้จากราคาหุ้นของดีแทค ก้าวกระโดดขึ้น ตลอด 5 วัน เพิ่มขึ้น 17% ขณะที่ ทรู หุ้นเพิ่มขึ้น 15% ไม่เว้นคู่แข่ง เอไอเอส คู่แข่งขันหุ้นเพิ่มขึ้น 7.7% เพราะนักลงทุนเห็นว่า เหลือผู้เล่น 2 ราย มีความจำเป็นตัดราคา ไม่จำเป็นต้องมีบริการใหม่ๆเพิ่ม ได้ประโยชน์ควบรวมกิจการ
การควบรวมกิจการครั้งนี้ทำให้ตลาดโทรคมนาคมไทยถอยหลังไป เมื่อปี 2547 หรือ 17 ปีที่แล้ว ที่มีโอปอเรเตอร์ 2ราย คือ เอไอเอส และดีแทค การแข่งขันน้อยใครได้ประโยชน์ ตอนนั้นมี 2 ราย มีบริการไม่เป็นมิตรกับผู้ใช้ โดยมีการล็อคอีมี่ ถ้าอยากใช้ เอไอเอส ต้องซื้อโทรศัพท์จากเอไอเอส เพราะมีการล็อกอีมี่ ซึ่งการควบรวมจะทำให้คุณภาพลดลง มีการ บังคับขายพ่วง แพ็กเก็จไม่เป็นประโยชน์ เพราะมีผู้ให้บริการให้เลือก 2 ราย จากเดิมมีทางเลือก 3 ราย เช่นเดียวสตาร์ทอัพหวังได้เงินจากค่ายมือถือ หากมีการรวมกิจการ มีแหล่งสนับสนุนลดลง
ขณะที่รัฐนั้นเสียผลประโยชน์จากการควบรวมกิจการครั้งนี้กรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นจากการประมูล 3G มาแล้ว ที่มีผู้ประมูล 3 ราย เคาะประมูลเสร็จในวันเดียว ผู้ประกอบการได้ไลเซ่น 3G ไปในราคาถูก จน กสทช.ออกมามีคำสั่งให้ลดราคาลงมา 15% ท้ายสุดโอปอเรเตอร์ที่มีข้อมูลผู้บริโภค เมิน ออกแพ็กเกจราคาถูกลง 15% จริง แต่เป็นบริการที่ผู้บริโภคไม่ใช้งาน ขณะที่อนาคน รัฐบาล เปิดประมูลคลื่นความถี่ 6G ผู้ให้บริการลดลงไม่มีการแข่งขัน รายได้เข้ารัฐลดลง
นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบกับอนาคตเศรษฐกิจดิจิทัล หากปล่อยให้โครงสร้างให้อยู่ในตลาดที่ไม่มีการแข่งขัน ผู้ใช้ องค์กร ได้รับผลกระทบหมด ทั้งเรียนออนไลน์ โรงพยาบาล ภาคธุรกิจ ถามว่าวันนี้ ทั้ง 2 รายมีการพัฒนานวัตกรรมอะไรใหม่ๆ ออกมา
กสทช.ไม่ควรปล่อยให้มีการควบรวมกิจการไปแล้ว แล้วไปแก้ปัญหา ทางออกคือ กสทช. ควรรีบออกประกาศ เป็นกฎหมายลูก ของ พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ให้กิจการโทรคมนาคม สามารถขายกิจการได้ แต่ขายให้ผู้ประกอบการรายใหม่ ไม่ใช่ผู้ประกอบการรายเดิมที่มีอยู่ในตลาด
“กสทช.ควรกลับไปพิจารณาข้อกฎหมายที่มีอยู่ ข่าวการควบรวมกิจการมีมานานแล้ว แต่ควรศึกษาเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับ กสทช. ชุดใหม่ ไม่ใช่รีบออกมาปฎิเสธว่ากำลังจะหมดวาระแล้ว แล้วปล่อยให้ควบรวมกิจการไปแล้ว แล้วค่อยมาแก้ปัญหาที่หลัง”