จากงานสัมมนา "5G THAILAND BIG MOVE" จัดโดย ฐานเศรษฐกิจ กรุงเทพธุรกิจ สปริงนิวส์ และสื่อในเครือเนชั่น ณ ห้องฉัตรา บอลรูม โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลงานด้านเทคโนโลยีเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เป็นประธานเปิดงานกล่าวตอนหนึ่งว่า
ในรอบปีที่ผ่านมา วิกฤติการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการใช้ชีวิตการทำธุรกิจแบบเดิมไม่สามารถคงอยู่ได้ท่ามกลางความท้าทายและความผันผวนของโลกที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ทุกประเทศต้องปรับตัวเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทสำคัญและกลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักเพื่อต่อสู้กับโลกที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา
ท้าทายยุทธศาสตร์ของชาติที่ต้องเปลี่ยนและปรับให้สอดรับกับโลกยุคใหม่ ประเทศไทยได้ชื่อว่า เป็นประเทศที่มีความก้าวหน้าและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ปรับตัวรับความท้าทายของโลกได้ดี
เราเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีการใช้เทคโนโลยี 5 จี ที่กำลังกลายเป็นกลไกหลักในการปรับโครงสร้างระบบเศรษฐกิจไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล พลิกโฉมประเทศ เสริมศักยภาพในกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ทั้งด้านการผลิต ด้านการเงิน ด้านการสาธารณสุข และด้านการเกษตร
รัฐบาลมีนโยบายนำเทคโนโลยี 5 จีไปใช้ต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับประชาชนคนไทยทั่วประเทศเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยและรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุด้วยการเข้าถึงบริการสาธารณสุข เกษตรอัจฉริยะ ยกระดับการศึกษา คุณภาพชีวิต และการสร้างงาน สร้างรายได้
รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนโดยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 5 จี ได้ด้วยตนเองซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนจากระดับท้องถิ่นสู่ระดับชาติได้ต่อไป
เทคโนโลยี 5 จีมีความสำคัญมากต่อการการพัฒนาประเทศในโลกวิถีใหม่ รัฐบาลมีความพยายามผลักดันให้เทคโนโลยี 5 จีเกิดการใช้งานอย่างเป็นรูปธรรมในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดกับระบบเศรษฐกิจโดยภาพรวมและเป็นฐานรากที่มั่นคงของเศรษฐกิจไทยในอนาคต
เราพยายามผลักดันให้เทคโนโลยี 5 จี เป็นกลไกในการพลิกโฉมประเทศ ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก สนับสนุนโอกาสให้กับธุรกิจต่างๆ สร้างโอกาสการแข่งขัน ด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งของไทย
วันนี้เริ่มมองเห็นศักยภาพของการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าเสริมประสิทธิภาพการทำงานในส่วนงานต่างๆ โดยดันให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ตอบโจทย์การเติบโตในอนาคตซึ่งคาดการณ์ว่า เทคโนโลยี 5 จี จะสร้างเม็ดเงินได้มากกว่า 6.5 แสนล้านบาท และ 5 จี จะช่วยเพิ่มมูลค่าจีดีพีให้กับประเทศไทย 5.5 เท่าภายในปี 2578
แสดงให้เห็นว่า 5 จี มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ให้กลายเป็นศูนย์กลางของเมืองอัจฉริยะแห่งภูมิภาคอาเซียนได้อย่างแท้จริง