นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า หลังจากที่สมาชิก RCEP ได้ให้สัตยาบันความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ครบตามจำนวนที่ความตกลงกำหนดไว้ ได้แก่ อาเซียน 6 ประเทศ (บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา สปป.ลาว สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม) และออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ ส่งผลให้ความตกลง RCEP จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 1 มกราคมปีหน้าทันที
กรมฯ จึงเชิญชวนให้ผู้ประกอบการเตรียมใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP โดยศึกษาทำความเข้าใจกฎเกณฑ์ทางการค้า ติดตามความต้องการของตลาด RCEP เพื่อวางแผนธุรกิจ และพัฒนาสินค้าให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในตลาด RCEP รวมทั้งศึกษาอัตราภาษีศุลกากรภายใต้ความตกลง RCEP สำหรับการนำเข้าและส่งออกสินค้า และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกฎถิ่นกำเนิดสินค้า เพื่อเลือกใช้สิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม
สำหรับประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากความตกลง RCEP คือสมาชิก RCEP จะยกเลิกภาษีนำเข้าที่เก็บกับสินค้าไทย จำนวน 39,366 รายการ โดยลดภาษีเหลือ 0% ทันที จำนวน 29,891 รายการ ซึ่งจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จะลดและยกเลิกภาษีศุลกากรกับสินค้าที่ส่งออกจากไทย เพิ่มเติมจาก FTA ที่มีอยู่ อาทิ ผลไม้สดและแปรรูป สินค้าประมง น้ำผลไม้ ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง รถยนต์และส่วนประกอบ พลาสติก เคมีภัณฑ์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ นอกจากนี้ ความตกลง RCEP จะช่วยขยายโอกาสในธุรกิจบริการของไทย อาทิ ก่อสร้าง ค้าปลีก สุขภาพ ภาพยนตร์และบันเทิง
“ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจสามารถศึกษาความตกลง RCEP ฉบับสมบูรณ์ (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) ในรูปแบบ E-Book และติดตามข่าวการจัดสัมมนา/ฝึกอบรม ได้ที่เว็บไซต์กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ www.dtn.go.th รวมทั้งรับชมการสัมมนาย้อนหลังเกี่ยวกับความตกลง RCEP ผ่านช่องทาง YouTube “DTNChannel” หรือ สแกน QR code”
ทั้งนี้ ความตกลง RCEP เป็น FTA ฉบับที่ 14 ของไทย และเป็น FTA ฉบับที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสมาชิก 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 10 ประเทศ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีประชากรรวมกัน 2,300 ล้านคน (30.2% ของประชากรโลก) มี GDP รวมมูลค่า 28.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (33.6% ของ GDP โลก)
และมูลค่าการค้ารวม 10.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (30.3% ของมูลค่าการค้าของโลก) สำหรับในช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค. 64) การค้าของไทยกับกลุ่มประเทศ RCEP มีมูลค่ารวม 2.56 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไป RCEP มูลค่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจาก RCEP มูลค่า 1.36 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ