ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.64 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดให้เอกชนที่ซื้อซองเอกสาร ยื่นข้อเสนอนั้น พบว่า มีเอกชน 5 ราย เข้ายื่นเอกสาร ประกอบด้วย 1.บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอน จำกัด (มหาชน) หรือ STEC จับมือกับบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)หรือCK โดยเข้ายื่นซองข้อเสนอประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้เป็นกลุ่มแรก จำนวน 265 กล่อง 2.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด ( มหาชน )หรือITD จับมือร่วมกับ บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน)หรือNWR เป็นกลุ่มที่2 จำนวน 150 กล่อง 3.บริษัทยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ UNIQ จำนวน 500 กล่อง
นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ จะเข้าร่วมยื่นข้อเสนอในโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตามที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดให้เอกชนที่ซื้อซองเอกสาร ยื่นข้อเสนอได้ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ เบื้องต้นประเมินว่าการแข่งขันในโครงการนี้น่าจะคึกคัก เอกชนกลุ่มรับเหมาทั้งไทยและต่างชาติสนใจเข้าร่วมยื่นข้อเสนอแน่นอน เพราะถือเป็นโครงการประกวดราคาที่มีมูลค่าสูง และเป็นงานภาครัฐส่งท้ายปี 2564
“โครงการนี้มีคนซื้อซองเอกสารค่อนข้างเยอะ เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีมูลค่าสูง แต่น่าจะได้เห็นบรรยากาศการแข่งขันของผู้รับเหมารายใหญ่มากกว่า เนื่องจากข้อกำหนดเกณฑ์การคัดเลือกของ รฟม.ค่อนข้างต้องการผู้ที่มีประสบการณ์งานขนาดใหญ่ และงานเฉพาะ ดังนั้นจะมีเอกชนรายใหญ่เท่านั้นที่คุณสมบัติเข้าเกณฑ์”
แหล่งข่าวจากบริษัทยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ กล่าวว่า ส่วนของบริษัทฯ ได้ยื่นซองข้อเสนอครบทั้ง 6 สัญญา ซึ่งแต่ละสัญญาก็เข้าเกณฑ์ทีโออาร์และมีความเป็นไปได้ที่จะชนะการประมูล เบื้องต้นบริษัทไม่ได้จับกลุ่มพันธมิตรบริษัทอื่นแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าหลักเกณฑ์ทีโออาร์จะมุ่งเน้นงานก่อสร้างอุโมงค์ทางเทคนิค แต่บริษัทเชื่อว่าจากประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมาจะสามารถเข้าร่วมประมูลได้โดยไม่ต้องมีซับคอนแทคเช่นกัน
รายงานข่าวจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า ขณะนี้มีเอกชนทั้งไทยและต่างชาติซื้อซองเอกสารโครงการดังกล่างรวม 12 ราย แบ่งเป็น เอกชนไทย 7 ราย เอกชนต่างชาติ 5 ราย โดยในนี้เป็นเอกชนจีน 1 ราย ญี่ปุ่น 3 ราย และเกาหลี 1 ราย
ทั้งนี้ รฟม.คาดว่าจะเสนอผลการคัดเลือกเอกชนให้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟม. พิจารณาผู้ชนะประมูลได้ภายในไตรมาสแรกปี 2565 หลังจากนั้นจะลงนามสัญญาทันทีภายในไตรมาส 2 เพื่อเร่งรัดเริ่มงานก่อสร้างภายในไตรมาส 3 โดยจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างตามสัญญา 2,005 วัน แล้วเสร็จประมาณปลายปี 2570
สำหรับ 6 สัญญา ที่เอกชนเข้ายื่นข้อเสนอนั้น ดังนี้ สัญญาที่ 1 งานจ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้างงานโยธา โครงสร้างใต้ดิน ช่วงเตาปูน – หอสมุดแห่งชาติ จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1. CKST-PL JOINT VENTURE (ประกอบด้วย บมจ. ช.การช่าง และ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น) 2. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 3. บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
สัญญาที่ 2 งานจ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้างงานโยธา โครงสร้างใต้ดิน ช่วงหอสมุดแห่งชาติ – ผ่านฟ้า จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1. CKST-PL JOINT VENTURE (ประกอบด้วย บมจ. ช.การช่าง และ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น) 2. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 3. บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
สัญญาที่ 3 งานจ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้างงานโยธา โครงสร้างใต้ดิน ช่วงผ่านฟ้า – สะพานพระพุทธยอดฟ้า จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1. CKST-PL JOINT VENTURE (ประกอบด้วย บมจ. ช.การช่าง และ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น) 2. ITD – NWR JOINT VENTURE (ประกอบด้วย บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ และ บมจ. เนาวรัตน์พัฒนาการ) 3. บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
สัญญาที่ 4 งานจ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้างงานโยธา โครงสร้างใต้ดิน ช่วงสะพานพระพุทธยอดฟ้า – ดาวคะนอง จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1. CKST-PL JOINT VENTURE (ประกอบด้วย บมจ. ช.การช่าง และ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น) 2. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 3. บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
สัญญาที่ 5 งานจ้างก่อสร้างงานโยธา โครงสร้างยกระดับ ช่วงดาวคะนอง – ครุใน จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1. CKST-PL JOINT VENTURE (ประกอบด้วย บมจ. ช.การช่าง และ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น) 2. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 3. บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
สัญญาที่ 6 งานจ้างออกแบบควบคู่การก่อสร้างงานระบบราง ช่วงเตาปูน – ครุใน จำนวน 3 ราย ได้แก่ 1. CKST-PL JOINT VENTURE (ประกอบด้วย บมจ. ช.การช่าง และ บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น) 2. บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 3. บมจ. ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น