วันที่ 6 มกราคม 2565 เมื่อเวลา 09.15 น. นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิง หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต นำผู้ประกอบการและพนักงานในซอยบางลา ทำความสะอาด (Big Cleaning) พื้นที่
ทั้งบริเวณถนน ร้านอาหาร พื้นผิวสัมผัส เพื่อฆ่าเชื้อโรค หลังพบยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมกับการปิดให้บริการ 1 วัน และตั้งจุดตรวจ ATK ฟรี เพื่อคัดกรองตรวจหาเชื้อโควิด-19 กับพนักงาน ผู้ให้บริการ และผู้ประกอบการทั้งหมด
นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิง หาดป่าตอง กล่าวว่า การจัดกิจกรรมทั้งหมดนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนชาวป่าตองและนักท่องเที่ยว ซึ่งโดยปกติได้ทำเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่เนื่องจากพบมีการระบาดมากขึ้น และซอยบางลาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ป่าตอง ที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่จะพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากเดิม หลังจากช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ และมีงานสังสรรค์ ดื่มกินตามที่มาตรการกำหนด
ทั้งนี้ ชมรมผู้ประกอบการสถานบันเทิง หาดป่าตอง ต่างเห็นตรงกันว่า การที่เราจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่หยุดชะงัก ต้องร่วมมือกันสกัดเชื้อโควิด-19 และเดินหน้าควบคู่ไปกับมาตรการต่าง ๆ ของจังหวัดและรัฐบาล
จึงร่วมกันปิดบริการ 1 วัน ทำความสะอาดพื้นที่ ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ และจัดหาชุดตรวจ ATK มาตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ให้กับชาวบางลา เพื่อเป็นการเร่งค้นหาและสกัดเชื้อไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก กับยอดผู้ติดเชื้อที่พบเพิ่มขึ้น เพราะทั้งหมดเป็นยอดจากการคัดกรอง โดยอยากให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นและให้ความมั่นใจว่า เราจะเดินหน้าต่อไปภายใต้มาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด
และในทุกวันนี้ได้มีการตรวจหาเชื้อด้วยการตรวจ ATK เป็นประจำ ซึ่งหากร้านใดพบตั้งแต่ 2 ราย จะให้ปิดบริการ 3 วัน เพื่อทำความสะอาด ถือเป็นตามมาตรการ และสร้างความเชื่อมั่น เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับป่าตองต่อไป
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ยังขาดความรับผิดชอบ ไม่ระมัดระวังด้านความปลอดภัย อาทิ การไม่สวมแมส ขณะที่เดินในพื้นที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นย่านชุมชน สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ หรือในร้านสะดวกซื้อ ที่ยังพบว่าไม่มีการสวมแมสหลายราย
ทั้งพนักงานคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งในร้านอาหาร บริเวณชายหาด เช่น บริเวณหาดกะตะ กะรน ป่าตอง หรือแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ อาจจะต้องมีมาตรการที่ควบคุมเข้มยิ่งขึ้น โดยจะต้องหารือกันทุกฝ่ายในการบริหารจัดการ เพื่อไม่ให้ทุกคนต้องอยู่ในภาวะที่เสี่ยง
นอกจากนี้ยังพบว่า สถานบริการบางแห่ง ยังไม่ค่อยปฏิบัติตามมาตรการเท่าที่ควร ซึ่งจะต้องกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สอดส่องดูแลแลลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวดต่อไป เพื่อภูเก็ตจะได้เดินต่อในเรื่องการท่องเที่ยวที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาดของเชื้อโควิดทุกสายพันธุ์ต่อไป