ภาษีคริปโตส่อเลื่อนตั้ง3ฝ่ายศึกษารูปแบบ

19 ม.ค. 2565 | 22:30 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ม.ค. 2565 | 23:48 น.

ชงยืดจัดเก็บภาษีคริปโต 1-2 ปี ความไม่ชัดเจนผลักนักลงทุนเกินครึ่งหนีเทรด Binance เงินทุนไหลออก รัฐเสียรายได้ ล่าสุดตั้งคณะทำงานร่วมรัฐ-เอกชน ศึกษา-ออกแบบการจัดเก็บภาษีที่มีความเหมาะสม

นายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ไทย บิทแคสต์ จำกัด ในฐานะนายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ข้อเสนอของทางสมาคมฯ เบื้องต้นที่หารือกับทางกรมสรรพากร คือ ต้องทำให้ทุกอย่างมีความชัดเจน โดยกระบวนการจ่ายภาษีต้องเป็นอย่างไร โดยไม่ตึงเกินไป แต่อยู่ภายใต้กฎหมาย ทำอย่างไรให้อุตสาหกรรมยังสามารถเติบโตต่อไป ทั้งนี้มองว่าในช่วงที่ยังไม่ชัดเจนนั้นต้องการให้ยึดการบังคับใช้กฎหมายออกไป 3-6 เดือน เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงแนวทางการจัดเก็บ และมีเวลาให้กรมสรรพากรไล่ดูรายละเอียด

นายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ไทย บิทแคสต์ จำกัด ในฐานะนายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

นอกจากนี้ยังเสนอให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกรมสรรพากร สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เพื่อการสอบถามความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องทั้งนักเทรดเดอร์ คนขุด ผู้ประกอบการมีไลเซ่น ไม่มีไลเซ่น รวมถึงรับความเห็นจากนักวิชาการด้านภาษีอากร โดยให้คณะกรรมการชุดนี้ รวบรวมประเด็นความเห็น เสนอที่ประชุมใหญ่วันที่ 20 มกราคมนี้ ที่มีสำนักงานคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ หรือ (กลต.) เจ้าภาพ และดำเนินการกระบวนการทั้งหมดให้มีความชัดเจนภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้

 “ส่วนตัวมองว่าไม่มีใครอยากเสียภาษี แต่หากอยู่รวมในสังคม คนทำงานเสียภาษี นักลงทุนมีกำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัลก็ควรเสียภาษี เพื่อสร้างความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ผมแฮปปี้ที่ต้องเสียภาษี เพราะกฎหมายมีผลบังคับใช้ แต่ต้องให้มีความชัดเจนในรายละเอียดเพื่อให้นักลงทุนจ่ายได้โดยไม่มีประเด็นปัญหา”

 

 ทั้งนี้เบื้องต้นเสนอให้เก็บภาษีคริปโต 0.1% เหมือนกันซื้อขายหลักทรัพย์ ส่วนสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เสนอจัดเก็บภาษีคริปโตที่ 0.05% ซึ่งท้ายสุดจะต้องมาหาตัวเลขการจัดเก็บที่เหมาะสม อย่างไรก็ตามมองว่าแนวทางการจัดเก็บภาษีไม่ควรเพิ่มภาระให้กับผู้ใช้มาก โดยการจัดเก็บภาษีจะส่งผลกระทบกับผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงแรกเท่านั้น ท้ายสุดแล้วจะดึงคนเข้ามาเทรด ดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้ามา เพราะมีความชัดเจนเรื่องการจ่ายภาษี ที่สำคัญการจัดเก็บควรเป็นการจ่ายทีเดียวจบไม่ต้องมายื่นภาษีเงินได้ปลายปีอีกรอบ

ด้านนายพีรเดช ตันเรืองพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัด (Upbit Thailand) ในฐานะของประธานสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่าประเด็นที่เสนอให้กรมสรรพากรพิจารณานั้นการจัดเก็บภาษีคริปโตที่ไม่มีแนวทางชัดเจน ทำให้นักลงทุนไทยเกิน 50% หนีไปเทรดบน Binance ซึ่งทำให้เงินไหลออกไปลงทุนต่างประเทศ โดยที่กรมสรรพากร ไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ และทำให้มีรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากผู้ให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทยน้อยลง เพราะผู้ให้บริการมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมลดลง นอกจากนี้ยังทำให้อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวมของประเทศชะลอการเติบโตลง ส่งผลต่อการสร้างอาชีพและการพัฒนาอุตสาหกรรมท่ามกลางการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

ด้านนายพีรเดช ตันเรืองพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัพบิต เอ็กซ์เชนจ์ (ประเทศไทย) จำกัด (Upbit Thailand) ในฐานะของประธานสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

 นอกจากนี้ยังได้เสนอให้มีการจัดคณะทำงานร่วมระหว่างกรมสรรพากร สำนักงาน กลต. สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และ สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เพื่อออกแบบการวิธีคิดภาษีคริปโต ที่มีความเหมาะสม และส่งเสริมอุตสาหกรรรม สร้างรายได้ให้ประเทศ

 

สุดท้ายที่มีความสำคัญมาก ขอให้มีช่วงเวลาผ่อนปรนการบังคับใช้กฎหมายออกไป 1-2 ปี เพื่อทำการศึกษา และให้เอ็กซ์เชนจ์มีเวลาเตรียมตัวให้การจัดทำข้อมูล ซึ่งการจัดทำระบบข้อมูลนั้นผู้ประกอบการก็มีต้นทุนเพิ่มขึ้น