นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายใน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบภาวะราคาและปริมาณหมู
ตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กำหนดให้ผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ ตั้งแต่ 500 ตัวขึ้นไป และผู้ครอบครองหรือห้องเย็นที่มีสต็อกหมู ตั้งแต่ 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป แจ้งปริมาณ และราคาทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.นี้เป็นต้นไป
เพื่อดูแลปริมาณหมูและสต็อกหมูที่มีอยู่ทั้งประเทศ ณ บริษัทเอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ดีซี ลำลูกกา และ บริษัท สกายลักค์ จำกัด อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งบริษัทเอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ดีซี ลำลูกกา เป็นศูนย์กระจายสินค้า ห้องเย็นขนาดใหญ่ รองรับได้ 8,400 ตัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีสต๊อกเข้าออกประมาณ 20,000 - 30,000 กก. ทุกวัน
สำหรับหมูแช่แข็งก็จะมีการจัดส่งไปจำหน่ายในห้างโลตัส และร้านโลตัสโกเฟรช ประมาณ 1,400 สาขา สำหรับปริมาณสต๊อกหมูตรวจสอบ ณ วันที่ 22 ม.ค.65 พบมีปริมาณรวม 77,182 กก. ซึ่งสอดคล้องกับบัญชีประจำวัน ส่วนบริษัท สกายลักค์ จำกัด เป็นห้องเย็นขนาดกลางรองรับได้ 100 ตัน จำหน่ายเนื้อหมูให้ร้านเฟรนไชต์ในเครือ ซึ่งปริมาณสต๊อกหมูชำแหละ ที่ตรวจพบ ณ วันที่ 22 ม.ค.65 มีปริมาณรวม 4,725 กก. ซึ่งสอดคล้องกับบัญชีประจำวัน เช่นกัน ทั้งนี้ ทั้ง 2 บริษัทฯ มีการปฏิบัติตามประกาศ กกร. ถูกต้อง
“นายจุรินทร์ได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดบูรณาการกับจังหวัดออกตรวจสอบ การเก็บสต๊อกหมูเป็นของห้องเย็นขนาดกลางและใหญ่หากตรวจแล้วพบว่าไม่แจ้งปริมาณ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และปรับอีกวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะแจ้ง หรือทั้งจำทั้งปรับ
และหากพบเห็นว่ามีการกักตุนจะมีโทษตามมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปีปรับ 140,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกักตุนหรือจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ”