ครม.ขยายเวลาศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราวอีก 1 ปี

08 ก.พ. 2565 | 09:40 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.พ. 2565 | 16:40 น.

ครม. ขยายเวลาศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราวของทางการเมียนมา จังหวัดสมุทรสาคร ออกไปอีก 1 ปี อำนวยความสะดวกให้แรงงานเมียนมามีเอกสารประจำตัวไม่ต้องเดินทางกลับประเทศ

8 กุมภาพันธ์ 2565 นางสาวไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดำเนินการศูนย์จัดเก็บข้อมูลแรงงานเมียนมาชั่วคราว (The Temporary Data Collection : TDCC) ของทางการเมียนมา ณ จังหวัดสมุทรสาคร ออกไปอีก 1 ปี เพื่อให้แรงงานเมียนมามีเอกสารประจำตัว โดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศ และทำให้การบริหารจัดการแรงงานเมียนมาในประเทศไทยเกิดความต่อเนื่อง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

 

ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครพิจารณากำหนดวัน เวลา ในการเริ่มเปิดดำเนินการ รวมทั้งแนวทางการปฏิบัติงานของศูนย์จัดเก็บข้อมูลฯของทางการเมียนมา ให้สอดคล้องกับแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  (โควิด-19)

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันศูนย์จัดเก็บข้อมูลฯ ของทางการเมียนมาได้ยุติการดำเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2564 สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทยได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 แจ้งความประสงค์ขอให้ฝ่ายไทยพิจารณาขยายระยะเวลาการดำเนินการศูนย์จัดเก็บข้อมูลฯ ของทางการเมียนมาออกไปอีก 1 ปี

เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นายจ้าง และแรงงานเมียนมาให้สามารถมีเอกสารประจำตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องเดินทางกลับประเทศ รวมทั้งเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวในภาพรวมได้อย่างต่อเนื่อง

นางสาวไตรศุลี รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า แนวทางการดำเนินการของศูนย์จัดเก็บข้อมูลฯของทางการเมียนมา ยังคงให้เป็นไปตามแนวทางที่ครม.ได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 เช่น มีกลุ่มเป้าหมาย เป็นกลุ่มแรงงานเมียนมา ไม่รวมคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาที่อยู่ในประเทศไทยด้วยวัตถุประสงค์อื่น เป็นการดำเนินการชั่วคราวระยะเวลา 1 ปี

 

สถานที่ตั้ง ตลาดทะเลไทย ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาได้แก่ แบบคำขอ บัตรประจำตัวประชาชนเมียนมา และสำเนาทะเบียนบ้านเมียนมา ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ จะไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่าย ยกเว้นเมื่อไปรับหนังสือเดินทาง ณ จุดที่กำหนด ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวน 1,050 บาท

 

ขณะที่สถานที่สำหรับรับหนังสือเดินทาง ประกอบด้วย สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย และศูนย์ออกหนังสือเดินทางบริเวณชายแดน 3 แห่ง ได้แก่ ฝั่งท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ฝั่งเมียวดี ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และฝั่งเกาะสอง ตรงข้ามอำเภอเมือง จังหวัดระนอง