นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่ศาลปกครองกลางได้อ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ 107/2552 คดีหมายเลขแดงที่ 366/2557 ระหว่างกระทรวงคมนาคม ที่ 1 กับพวก รวม 2 คน (ผู้ร้อง) กับ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (ผู้คัดค้าน) (คำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา) โดยศาลปกครองสูงสุด สั่งรื้อคดี โฮปเวลล์ ที่รัฐบาล และรฟท. ต้องจ่ายค่าเสียหาย (ค่าโง่) ให้เอกชน 2.4 หมื่นล้านบาท นั้น ถือว่าเป็นเรื่องดี เนื่องจากเรื่องดังกล่าวยังไม่จบกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งช่วยเปิดโอกาสให้ภาครัฐได้ดำเนินการต่อสู้คดีใหม่ได้อีกครั้ง
" เรามั่นใจว่าชนะคดีนี้ โดยต้องนำหลายประเด็นมาต่อสู้หลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอายุความขอคดี มติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) การจดทะเบียนวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งการลงนามในสัญญา ผู้ลงนามไม่ใช่บริษัทที่ได้รับสัมปทาน เป็นต้น"
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า กรณีที่ศาลปกครอง สั่งรื้อคดี โฮปเวลล์ นั้น ทางรฟท.มองว่าเป็นเรื่องที่ดีกับภาครัฐ หลังจากนี้จะต้องเตรียมความพร้อมในการเดินหน้าต่อไปตามกฎหมาย ยืนยันว่าทางกระทรวงคมนาคม และรฟท. มีความพร้อมในเรื่องนี้ และพร้อมปรับตัวให้สอดคล้องต่อรูปคดีที่เกิดขึ้นจนถึงที่สุดต่อไป
“เรามั่นใจว่าการต่อสู้คดีในครั้งนี้ จะได้รับความเป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมในครั้งต่อไป ทั้งนี้ จากการเตรียมตัวในเรื่องกฎหมายแล้ว ทาง รฟท.ได้มีการหารือกันในการวางรูปคดีของเรื่องนี้ให้ดีที่สุด เพื่อให้ศาลได้ค้นหาความจริงได้อย่างเต็มที่ จนนำไปสู่ดุลพินิจที่ถูกต้อง และเราในฐานะองค์กรของรัฐเราพร้อมเคารพในคำตัดสินของศาลฯ โดยถึงที่สุดอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนหลังจากนี้ภาครัฐจะต้องจ่ายค่าโง่ ให้กับบริษัทโฮปเวลล์หรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอให้กระบวนการการตัดสินอีกที"