นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับการประชุมคณะทํางานศึกษาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเพื่อดําเนินการแก้ไขปัญหาและความเสียหายของรัฐที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในอนาคตในโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร (คดีโฮปเวลล์)เนื่องจากศาลปกครองสูงสุดมีคําสั่ง ยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นไม่รับคําขอพิจารณาคดีใหม่ไว้พิจารณา ครั้งที่ 1/2565 พร้อมด้วย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายนิรุฒ มณีพันธุ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และคณะทำงาน ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ เข้าร่วม
สำหรับการประชุมครั้งนี้กระทรวงคมนาคมและรฟท.ได้มีโอกาสต่อสู้โดยคดีจาก พยาน หลักฐานและข้อพิรุธต่าง ๆ และได้การสนับสนุนจากสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นอย่างดีในการต่อสู้คดีไปด้วยกันโดยที่ประชุมพิจารณาแล้วได้ข้อยุติว่ากระทรวงคมนาคมและรฟท.จะมีหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอความอนุเคราะห์แต่งตั้งพนักงานอัยการพิจารณาดำเนินการในคดีแทนกระทรวงคมนาคมและรฟท.โดยมีผู้แทนกระทรวงคมนาคมและรฟท. รวมถึงมีมติให้ นายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค เป็นผู้ประสานงานคดีนี้โดยคณะจะดำเนินการเรื่องดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 18 มีนาคม 2565 ซึ่งพนักงานอัยการก็ได้รับทราบและยินดีรับข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมและรฟท.
ทั้งนี้ในที่ประชุมมีการพิจารณาถึงแนวทางการดำเนินงานภายหลังศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งที่ 81-83/2565 ฉบับลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 กลับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้รับคำขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ของกระทรวงคมนาคมและรฟท.ไว้พิจารณา และให้ศาลปกครองชั้นต้นพิจารณางดการบังคับคดีที่บังคับให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยชำระเงินสองหมื่นกว่าล้านบาทให้แก่ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นสัญญาณในทางที่ดีต่อภาครัฐในการขอพิจารณาคดีใหม่ โดยในการประชุมมีการหารือถึง Action Plan ที่กระทรวงคมนาคมและรฟท.ต้องดำเนินการภายในกรอบระยะเวลาของกฎหมายที่กำหนดไว้ในการฟ้องคดีต่อศาล ซึ่งความสำเร็จของการยื่นขอพิจารณาคดีใหม่ในครั้งนี้มีนายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าทีมในการสืบค้นพยานหลักฐานต่าง ๆ และข้อพิรุธ รวมถึงได้รับการสนับสนุนที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของภาครัฐจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย