รัฐบาลเปิดการ ลงทะเบียนแก้หนี้สินครู ปี 2565 เป็นการช่วยเหลือครูและบุคลากรทางศึกษา เข้ามาลงทะเบียนผ่าน กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแจ้งความประสงค์เข้าสู่ชั้นตอนตามกระบวนการของการแก้ไขปัญหาหนี้สิน
สำหรับแนวทางในการช่วยเหลือผ่านโครงการนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ต้องการลดภาระหนี้โดยรวมของครูให้ลดลง ให้ต้องเป้าหมายให้ครูสามารถมีรายได้ต่อเดือนเหลือไม่น้อยกว่า 30% ของเงินเดือน เพื่อจะได้มีเงินเหลือไปใช้จ่ายและไม่จำเป้นต้องกู้ยืมเงินมาเพิ่มเติมอีก
ระยะเวลาลงทะเบียน
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 จนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2565 เป็นระยะเวลา 1 เดือน
วิธีลงทะเบียนมีขั้นตอน ดังนี้
สำหรับแนวทางขับเคลื่อนการการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ในระยะแรกมี 4 มาตรการ ดังนี้
มาตรการที่ 1 ลดดอกเบี้ย
โดยให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ครูรายใหญ่เข้าร่วม ขณะนี้มีสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 70 แห่ง จากทั้งหมด 108 แห่ง เข้าร่วมปรับอัตราดอกเบี้ยแล้ว โดยจะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงตั้งแต่ 0.05-1.0% และพบว่ามีสหกรณ์ 11 แห่ง สามารถปรับลดดอกเบี้ยให้ลงเหลือต่ำกว่า 5%
โดยมีครูที่ได้รับประโยชน์ทันทีกว่า 460,000 คน และจะเร่งขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศในระยะถัดไป ซึ่งครูมีหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 1,000,000 บาท หากอัตราดอกเบี้ยลดลง 1% จะทำให้ครูมีเงินไว้ใช้จ่ายต่อปีเพิ่มขึ้นถึง 10,000 บาท
ขณะเดียวกันนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน จะเป็นคนกลางในการประสานขอความร่วมมือกับธนาคารออมสิน เพื่อชะลอการดำเนินคดีทางกฎหมายกับกลุ่มครู ซึ่งคาดว่ามีครูได้รับประโยชน์กว่า 25,000 คน
มาตรการที่ 2 พิจารณาและควบคุมการอนุมัติเงินกู้อย่างเคร่งครัด
โดยยอดหนี้รวมทั้งหมดของผู้กู้ต้องไม่ให้มากเกินกว่า 70% ของรายได้ เพื่อให้ครูสามารถมีเงินใช้จ่ายได้ 30% ของเงินเดือน เนื่องจากครูมีหนี้สินหลายด้าน ระบบการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ยังไม่เป็นระบบที่เชื่อมโยง กระทรวงศึกษาธิการ จึงร่วมมือกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ในการสร้างระบบและเชื่อมโยงหนี้รายบุคคล
เพื่อให้ทราบข้อมูลหนี้ครูรายคนสำหรับการบริหารจัดการและไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน โดยทางเครดิตบูโรสนับสนุนให้ ศธ. ใช้ระบบได้ฟรี ไม่คิดใช้จ่าย หากตรวจพบว่าครูที่ต้องการกู้เงินเพิ่มเติม มีหนี้รวมมากกว่า 70% จะไม่ได้รับการอนุมัติให้กู้เพิ่ม
มาตรการที่ 3 จัดตั้งสถานีแก้หนี้สินครู
โดยมีการแยกเป็น ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และหน่วยงานทางการศึกษา 481 แห่ง และระดับจังหวัด 77 จังหวัด รวม 558 สถานีทั่วประเทศ โดยดำเนินการในรูปคณะกรรมการ ดังนี้
มาตรการที่ 4 ให้ความรู้ด้านการเงินให้ครู
โดยประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถวางแผนการเงิน และมีระเบียบวินัยในการใช้จ่ายได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า นับตั้งแต่กระทรวงศึกษาธิการได้เปิดให้ครูมาลงทะเบียนแก้ปัญหาหนี้สิน เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้มีครูมาลงทะเบียนแล้ว 27,427 ราย
โดย กระทรวงศึกษาธิการ จะส่งต่อให้เขตพื้นที่ฯ เร่งดำเนินการช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการ จะเดินหน้าหาแนวทางแก้ไขที่หลากหลาย รวมถึงดำเนินการเกี่ยวกฎ ระเบียบต่าง ๆ เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดและแบ่งเบาการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูต่อไป