สถิติการลักลอบทิ้งกากของเสียที่เป็นอันตราย ซึ่งรวบรวมไว้ในรอบ 10 ปี (2555 - 2564) พบจำนวนมากถึง 79 ครั้ง สูงสุดอยู่ที่ภาคตะวันออก 45 ครั้ง ภาคกลาง 21 ครั้ง ภาคตะวันตก 8 ครั้ง เนื่องจากเป็นแหล่งอุตสาหกรรม ทำให้สารเคมีอันตรายแพร่กระจายสู่สิ่งแวดล้อม อาทิ ปัญหากลิ่น
การปนเปื้อนของดิน แหล่งน้ำผิวดิน ระบบน้ำใต้ดิน ระบบนิเวศส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพอนามัยและการประกอบอาชีพของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบหาผู้กระทำผิดยาวนานและมีค่าใช้จ่ายในการจัดการบำบัดและฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนเป็นจำนวนมาก
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า คพ. ได้เตรียมความพร้อมให้กับเครือข่าย มีการจัดทำทำเนียบเครือข่าย ช่องทางการติดต่อ คู่มือการทำงาน และจะอบรมเพิ่มและทบทวนสร้างองค์ความรู้ให้กับเครือข่ายเป็นระยะ
โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงการลักลอบทิ้งกากของเสียอันตราย 12 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดระยอง ฉะเชิงเทรา ชลบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปราจีนบุรี สระบุรี สระแก้ว นครราชสีมา ลพบุรี เพชรบุรี และราชบุรี นายอรรถพล ได้ให้แนวทางการทำงานและเน้นประเด็นสำคัญ
กรณีเกิดเหตุการณ์สถานการณ์มลพิษต้องหยุดยั้งมลพิษให้รวดเร็ว สืบสวนหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบต้องได้รับการเยียวยา มีการเรียกร้องค่าเสียหาย จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลการขนส่งกากของเสียกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม
เพื่อเป็นข้อมูลติดตามผู้กระทำความผิด และ คพ. อยู่ระหว่างการปรับปรุงพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 เพื่อให้มีอำนาจและกฎหมายรองรับ และได้เน้นย้ำขอให้เครือข่ายอาสาสมัครฯ ร่วมเป็นหูเป็นตาในการเฝ้าระวังการลักลอบทิ้งกากของเสียอันตราย แต่ต้องดูแลความปลอดภัยของตนเองด้วยในขณะปฏิบัติงาน
จากเสียงสะท้อนปัญหาและข้อเสนอแนะจากเครือข่ายภาคประชาชน ขอให้หน่วยงานภาครัฐดำเนินการตรวจสอบ เร่งสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด จัดการกับกากของเสียและฟื้นฟูให้รวดเร็วเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม มีบทลงโทษทางสังคมกับผู้กระทำความผิด มีระบบข้อมูลการตรวจสอบย้อนกลับของสารเคมีและกากของเสียจากโรงงาน
ผลักดันการจัดตั้งกองทุนการจัดการกากของเสียอันตรายและฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อน การออกกฎระเบียบกำหนดพื้นที่เฉพาะ (zoning) สำหรับโรงงานประเภท 101 105 และ 106 ให้มีการจัดการกากของเสียภายในจังหวัดและห้ามขนย้ายข้ามจังหวัด เร่งรัดออกกฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เพื่อรองรับการจัดการกากของเสียอันตรายจากสถานประกอบการขนาดเล็กที่ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงาน ซึ่งทางกรมจะนำข้อเสนอไปขับเคลื่อนและปฏิบัติงานร่วมกับอาสาสมัครอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้พบเห็นการลักลอบทิ้งกากของเสียอันตราย โทรแจ้ง 1650 นายอรรถพล กล่าว