ลุยฟ้อง “โฮปเวลล์”3คดีรวด คมนาคม-รฟท.มั่นใจคดีพลิกไม่เสียค่าโง่

18 เม.ย. 2565 | 09:18 น.
อัปเดตล่าสุด :18 เม.ย. 2565 | 17:02 น.

กระทรวงคมนาคม -รฟท.ลุยฟ้องโฮปเวลล์ใหม่ 3 คดี รวด ตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) เป็นโมฆะ ผิด ปว.281 นายทะเบียนละเว้นไม่เพิกถอนทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์“ศักดิ์สยาม” มั่นใจ คดี พลิกกลับมาชนะ 100% ไม่ต้องเสียค่าโง่  

 

 

ศาลปกครองสูงสุด กลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นเมื่อวันที่4มีนาคม2565 รับคำขอ รื้อฟื้นคดีโฮปเวลล์เปิดทางให้กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) นับหนึ่งต่อสู่คดีใหม่ กับ บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย)จำกัด โจทย์ยื่นฟ้องรัฐ และเป็นฝ่ายชนะคดีจนนำไปสู่มหากาพย์ค่าโง่โฮปเวลล์ ที่รัฐเป็นฝ่ายเพี่ยงพล้ำ

 

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความแน่ชัด ว่า รัฐไม่ต้องชำระค่าเสียหายรวมวันที่ 7 มี.ค.65 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมและนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ รฟท. ได้ทำหนังสือถึงศาลปกครองกลาง (ศาลชั้นต้น)ในคดีดังกล่าว ขอให้งดการบังคับคดี

 

 

 

พร้อมทั้งแจ้งคำสั่งดังกล่าวให้สำนักงานบังคับคดีปกครองทราบแต่ทั้งนี้ ศาลปกครองกลางระบุชัดว่าคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่4มีนาคมให้มีการรื้อฟื้นคดีโฮปเวลล์ใหม่เท่ากับเป็นการงดบังคับคดีโดยปริยาย

 

 

จากก่อนหน้านี้ศาลปกครองสูงสุดเคยพิพากษา ให้กระทรวงคมนาคมและ รฟท.ต้องจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี รวม 25,711 ล้านบาท ภายใน 180 วัน และเมื่อศาลมีคำสั่งงดบังคับคดี จะส่งผลให้คำสั่งชดใช้ค่าเสียหายข้างต้น รวมดอกเบี้ยจะถูกชะลอออกไปก่อน

ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมได้ทำแผนปฎิบัติการ  แนวทางการต่อสู้คดีโดยมอบอำนาจให้อัยการสูงสุดแต่งตั้งพนักงานอัยการพิจารณาดำเนินการในคดีแทนกระทรวงคมนาคมและ รฟท.ล่าสุดขั้นตอนอยู่ระหว่างการทำคำฟ้อง โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

 

มั่นใจว่าสามารถยื่นฟ้องได้ภายในสิ้นเดือน เมษายนนี้ โดยเร่งรวบรวมเอกสารหลักฐานให้ได้มากและเพียงพอในการชี้แจงต่อศาล อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นในหลักฐานที่มีทั้งหมดว่าจะสามารถพลิกคดีให้ชนะได้100% เพราะทั้งหมดนี้โดยยึดหลักกระบวนการยุติธรรมที่จะไม่ให้ประเทศเสียผลประโยชน์

 

ขณะคืบหน้ารื้อคดีโฮปเวลล์ เพื่อนำไปสู่การต่อสู้คดีในศาล นายศักดิ์สยาม ระบุว่าแบ่งออกเป็น 3 คดี ได้แก่

 

1.คดีที่พิจารณาคดีใหม่ ซึ่งปัจจุบันคมนาคมและ รฟท.มอบหมายให้พนักงานอัยการดำเนินคดีแทน โดยอธิบดีอัยการ สำนักคดีปกครอง ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาคดี และมอบหมายให้นายเกษม ธีระเดชานนท์ เป็นอัยการผู้รับผิดชอบคดี

 

2.คดีแพ่งที่กระทรวงมอบอำนาจให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีแพ่ง8 คือ นายฐนัตเดช ค้ำชู เป็นผู้รับผิดชอบในการฟ้องขอให้ศาลแพ่งมีคำพิพากษา ให้สัญญาจัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นโมฆะ เพราะกระทำผิด ปว.281(ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่281  เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 

 

 

ล่าสุดได้กำหนดนัดพร้อมเพื่อขอความเห็นศาลปกครองว่าเป็นคดีแพ่งหรือไม่ โดยศาลแพ่งนัดพร้อมวันที่ 27 มิถุนายนนี้ เบื้องต้นศาลแพ่งเห็นว่าเป็นคดีแพ่ง หากศาลปกครองกลางเห็นด้วย ก็จะดำเนินคดีในศาลแพ่งต่อไป แต่หากศาลปกครองกลางเห็นต่าง ก็จะนำเข้าคณะกรรมการชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล

 

 

3.คดีปกครองที่ รฟท.ได้มอบอำนาจให้นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความ เป็นผู้ฟ้องนายทะเบียนหุ้นส่วน บริษัท กรุงเทพฯ จากเหตุที่ไม่เพิกถอนทะเบียนบริษัท โฮปเวลล์ฯ ที่กระทำผิด ปว.281เบื้องต้นศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับฟ้อง ดังนั้นรฟท.จึงยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งดังกล่าว และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด

 

 

ด้าน นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการ รฟท. มองว่าเป็นเรื่องที่ดีกับภาครัฐ ยืนยันว่ากระทรวงคมนาคม และ รฟท.มีความพร้อมในการต่อสู้อย่างมาก และพร้อมปรับตัวให้สอดคล้องต่อรูปคดีที่เกิดขึ้นจนถึงที่สุด เพราะขั้นตอนจากนี้เหมือนเป็นการเริ่มต้นคดีใหม่ในชั้นศาลปกครองกลาง

 

 

“กระทรวงคมนาคม และ รฟท.มีการร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่ ซึ่งศาลจะมีการไต่สวนทั้ง 2 ฝ่าย และโฮปเวลล์อาจต้องให้การใหม่ โดยหากมีการต่อสู้คดีจนถึงศาลปกครองสูงสุดอีกครั้ง อาจใช้เวลามากกว่า 1 ปี สำหรับประเด็นที่จะนำมาต่อสู้หลังจากนี้ อาทิ เรื่องอายุความของคดี มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) การจดทะเบียนวัตถุประสงค์บริษัท ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการลงนามในสัญญา ผู้ลงนามไม่ใช่บริษัทที่ได้รับสัมปทาน ”