เอกชนลุยส่งออกครึ่งหลัง รุกหนักตลาดซาอุฯ ร่วม 7 แฟร์ใหญ่-บุกออนไลน์รัสเซีย

21 เม.ย. 2565 | 03:00 น.
อัปเดตล่าสุด :21 เม.ย. 2565 | 10:07 น.

เอกชนลุยแผนส่งออกครึ่งปีหลัง เข็นเป้าโต 5% สรท.โชว์แอ็กชั่นแพลนผนึกพาณิชย์จัดทัพกว่า 30 บริษัทบุกตลาดซาอุฯ มิ.ย.นี้ พร้อมร่วม 7 งานแฟร์ใหญ่เจาะตะวันออกกลาง รุกหนัก RCEP หอการค้าฯชี้ช่องสินค้าไทยขาย OZON ช็อปออนไลน์เบอร์ 1 รัสเซีย กรมส่งเสริมฯ ลุยแผน 6 เดือนทุกช่องทาง

 

กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายเมื่อต้นปี การส่งออกไทยปี 2565 จะขยายตัวได้ 3-4% หรือมีมูลค่า 2.7-2.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯโดยมีแผนงานในการขับเคลื่อนการส่งออกผ่านระบบออนไลน์ และออฟไลน์ตลอดทั้งปีนี้รวมกว่า 152 กิจกรรม

 

ขณะที่ 2 เดือนแรกไทยส่งออกแล้วมูลค่า 4.47 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯขยายตัว 12.16% ซึ่งสภาผู้สินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก ประเมินทั้งปีนี้ส่งออกไทยจะขยายตัวได้ที่ 5% โดยในไตรมาสแรกคาดจะขยายตัวได้ที่ 8% จากลูกค้ามีการยืนยันคำสั่งซื้อไว้แล้วล่วงหน้าก่อนสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะเกิดขึ้น ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงยืดเยื้ออาจส่งผลคำสั่งซื้อในไตรมาสสอง ลดลงประมาณ 4,000-5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากกว่า 1 แสนล้านบาท จากเศรษฐกิจ การค้าโลกชะลอตัว

 

 

เอกชนลุยส่งออกครึ่งหลัง รุกหนักตลาดซาอุฯ ร่วม 7 แฟร์ใหญ่-บุกออนไลน์รัสเซีย

 

  • 31 บริษัทพร้อมบุกซาอุฯ

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เพื่อผลักดันการส่งออกให้ได้ 5% ตามที่คาดการณ์ไว้ สรท.มีแผนงาน/กิจกรรมในเดือนที่เหลือของปีนี้ได้แก่ การจัดกิจกรรม Trade Mission หรือจัดคณะผู้แทนการค้าเยือนตลาดเป้าหมายสำคัญ เช่น ซาอุดิอาระเบีย และตลาดอื่น ๆ โดยตลาดซาอุฯในวันที่ 2-10 มิถุนายนนี้ ทาง สรท.ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะนำสมาชิก สรท.ในกลุ่มผู้ส่งออกรายใหม่ และกลุ่มผู้ส่งออกเดิมที่ต้องการขยายฐานการค้าเดินทางเยือนซาอุฯ เพื่อจัดกิจกรรมขยายตลาดใน 3 เมืองหลักได้แก่ ริยาด ดัมมัม และเจดดาห์

 

ชัยชาญ  เจริญสุข

 

“ขณะนี้มีจำนวนสมาชิกที่สนใจตอบรับเข้าร่วมการเดินทางครั้งนี้แล้วกว่า 31 บริษัท อาทิ ในกลุ่มสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องสำอาง เครื่องปรับอากาศ ชิ้นส่วนยานยนต์ สินค้าเกษตร ฯลฯ”

 

  • จัดแถวร่วม 7 แฟร์ใหญ่

นอกจากนี้จะจัดกิจกรรมเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศมากขึ้น เช่น ใน 7 งานใหญ่ที่ซาอุฯ ที่จะจัดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงพฤศจิกายนเพื่อเจาะตลาดซาอุฯ และตะวันออกกลาง ได้แก่ Saudi Food Expo, E-Motor Show, Saudi Print & Pack, Automechanika Riyadh, SAUDI HORECA, Saudi Agriculture และ Materials Handling Saudi Arabia

 

ขณะเดียวกันจะเร่งผลักดันให้สมาชิกใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) กับ 14 ประเทศที่มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 รวมถึงขอให้ภาครัฐเร่งเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA)เพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดส่งออก เช่น FTA ไทย-สหภาพยุโรป(อียู) เป็นต้น

 

  • ลุยค้าออนไลน์เบอร์1รัสเซีย

ด้าน นายวิศิษฐ์  ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และนายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป กล่าวว่า รัฐควรวางแผนผลักดันการส่งออก โดยใช้วิกฤติรัสเซีย-ยูเครนให้เป็นโอกาสสำหรับสินค้าไทย เช่น สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรฯ ประจำกรุงมอสโก ควรเตรียมความพร้อมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกไทยไปรัสเซียอย่างเต็มที่ โดยการจัดงานเทศกาลในประเทศด้านสุขภาพ ซึ่งงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-5 มิถุนายน 2565

 

 

นอกจากนี้คือการผลักดันสินค้าไทยขึ้นไปอยู่บนแพลตฟอร์ม OZON ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มค้าออนไลน์อันดับ 1 ในรัสเซีย เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคสนใจซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 และกฎหมายรัสเซียเปิดช่องการสั่งซื้อสินค้าข้ามพรมแดนได้ รวมถึงการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ ในสินค้าเป็นเอกลักษณ์ไทย เช่น สมุนไพร เป็นต้น

 

วิศิษฐ์  ลิ้มลือชา

 

  • พาณิชย์โชว์แผน 6 เดือน

ขณะที่ นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สค.) กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า แผนผลักดันการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ช่วง 6 เดือน (มี.ค.-ส.ค.65) ในรูปแบบ B2B / Online Business Matching จะมีประมาณ 15 โครงการ ผ่าน Online Business Matching เช่น งานแสดงสินค้าอาหารฮาลาล, งานแสดงสินค้าอาหารแห่งอนาคต, งานแสดงสินค้า Top Thai Brand 2022, สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยง, สินค้าแฟชั่นไทย, สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น, งานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับ, สินค้าผลไม้ภาคใต้/ภาคเหนือ เป็นต้น

 

ส่วนแผนดำเนินงานด้านการส่งออกรายภูมิภาค ระหว่างเดือน มี.ค.- ส.ค. มี 23 โครงการเช่น งาน Mini Thailand Week ณ นครเกิ่นเทอ ประเทศเวียดนาม 20-22 พ.ค. 65 เป้าหมายผู้ประกอบการเข้าร่วม 70 ราย สร้างมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าไทย 35 ล้านบาท,โครงการส่งเสริมการขายผ่านช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ ในตลาดอินโดนีเซีย ประกอบด้วยกิจกรรม “Treats of Thailand 2022” กับบริษัท PT Supra Boga Lestari Tbk ภายใต้ซุปเปอร์มาร์เก็ต 3 แบรนด์ ได้แก่ 1) Ranch Market 2) Farmers Market และ 3) The Gourmet by Ranch Market (ก.ค. 65) ผู้ประกอบการเข้าร่วม 10 ราย เป้าหมายสร้างมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าไทย 12 ล้านบาท

 

โครงการส่งเสริมการตลาดสินค้าไทยรูปแบบใหม่ในตลาดมาเลเซีย ผู้ประกอบการเข้าร่วม 20 ราย สร้างมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าไทย 30 ล้านบาท, โครงการขยายตลาดมาเลเซียผ่านช่องทางการค้าสมัยใหม่ (Modern trade) และช่องทางการค้าออนไลน์ สินค้า 60 รายการ สร้างมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าไทย 2 ล้านบาทช่วงเดือนเม.ย.- ก.ค., โครงการ In-store Promotion ส่งเสริมการขายสินค้าไทยร่วมกับซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในฟิลิปปินส์ เม.ย.-ก.ย 65 มูลค่ายอดขายสินค้าไทยของซูเปอร์มาร์เก็ตที่ร่วมทำโครงการเพิ่มขึ้น 20% เป็นต้น

 

หน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3776 วันที่ 21 -23 เมษายน 2565