กทพ.ลุยสร้างด่วนฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี 1.9 หมื่นล้าน

26 พ.ค. 2565 | 23:30 น.

กทพ.เดินหน้าสร้างทางด่วนฉลองรัช-นครนายก- สระบุรี นำร่องสร้างเฟส 1 ทุ่มงบ 1.9 หมื่นล้านบาท เตรียมออกพันธบัตร 1.74 หมื่นล้านบาท ดึงเอกชนลงทุน เล็งชงครม. เคาะส.ค.นี้

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เร่งขยายโครงข่ายทางพิเศษ (ทางด่วน) เพื่อรองรับปริมาณจราจรระบายออกสู่นอกเมืองแก้ปัญหารถติดและสิ้นเปลืองพลังงาน

 

 

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี ปัจจุบันโครงการดังกล่าวมีความพร้อมที่จะผลักดันอย่างมาก เนื่องจากผ่านการพิจารณรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และทำการศึกษาออกแบบรายละเอียดโครงการแล้วเสร็จ กทพ.ได้รวบรวมข้อมูลนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) อนุมัติเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา

 

 

 “ขณะนี้ภาพรวมโครงการมีความพร้อมหมดแล้ว มีการจัดรับฟังความคิด เห็นภาคประชาชนและส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ติดปัญหาอะไร ทุกฝ่ายพร้อมสนับสนุนให้พัฒนาโครงการนี้ เบื้องต้นการทางฯคาด ว่าหากบอร์ดพิจารณาอนุมัติในการเสนอครั้งนี้ ก็จะสามารถเสนอโครงการเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือนสิงหาคม 2565 หรืออย่างช้าปลายปี 2565”

รายงานข่าวจาก กทพ.กล่าวว่า แผนพัฒนาโครงการทางพิเศษสายดังกล่าวแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 ระยะ โดยระยะที่ 1 จะเริ่มจากจุดเชื่อมต่อจากทางพิเศษฉลองรัช (อาจณรงค์-รามอินทรา-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร) บริเวณด่านจตุโชติมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก-ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตัดถนนหทัยราษฎร์และถนนนิมิตใหม่ และถนนลำลูกกา ซึ่งจะสิ้นสุดบริเวณถนนวงแหวนรอบที่ 3 ของกรมทางหลวง (ทล.) มีระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร (กม.)

 

 

ทั้งนี้เบื้องต้นงานก่อสร้างระยะแรกนั้น กทพ.จะดำเนินการลงทุนพัฒนาเอง จัดใช้วงเงินลงทุนราว 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งปรับลดจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีการปรับแบบก่อสร้าง และลดระยะทางไปได้ราว 2 กิโลเมตร ส่งผลให้วงเงินดังกล่าวเหลือแบ่งเป็นวงเงินค่าก่อสร้าง 1.74 หมื่นล้านบาท เป็นส่วนที่ กทพ.จะลงทุนเอง และค่าจัดกรรมสิทธิ์ ที่ดิน 1.6 พันล้านบาท ที่ต้องขอสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล ส่วนรูปแบบการลงทุนนั้น อาจจะใช้รูปแบบการออกพันธบัตรวงเงิน 1.74 หมื่นล้านบาท เนื่องจากมีต้นทุนทางการเงินที่ตํ่าที่สุดในขณะนี้ โดยประเมินว่าจะมีอัตราดอกเบี้ยเพียง 2-3% ส่วนเงินทุนที่ระดมทุนผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทยหรือไทยแลนด์ฟิวเจอร์ ฟันด์ (TFFIF) ปัจจุบันได้นำมาใช้จ่ายดำเนินโครงการอื่นๆ แล้ว

 

 

 

สำหรับแผนพัฒนาในระยะต่อไป กทพ.จะทยอยลงทุนเมื่อมีการเปิดให้บริการระยะแรกแล้วและมีปริมาณการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น ระยะที่ 2 มีแนวเส้นทางเริ่มจากบริเวณถนนวงแหวนรอบที่ 3-ทางหลวงชนบท นย.3001 ไปยังถนนรังสิต-นครนายก บริเวณด้านหลังศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร

ระยะที่ 3 แนวเส้นทางจะเริ่มต้นจากถนนรังสิต-นครนายกขึ้นไปทางเหนือ ตัดผ่านทางหลวง 33 (ถนนสุวรรณศร) บริเวณ กม.116+000 ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร และระยะที่ 4 เริ่มต้นจากถนนสุวรรณศร-ทางเลี่ยงเมืองสระบุรี สิ้นสุดโครงการที่ถนนมิตรภาพ บริเวณกม.10+700 อำเภอแก่งคอย สระบุรี ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร รวมวงเงินลงทุนทั้ง 4 ระยะประมาณ 8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้าง 7.3 หมื่นล้านบาท และค่าเวนคืนประมาณ 7 พันล้านบาท

 

 

 “โครงการทางพิเศษสายฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี หากได้รับการอนุมัติจากครม.ภายในเดือนสิงหาคมนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มขั้นตอนเปิดประมูลหาผู้รับจ้างก่อสร้างได้ในช่วงกลางปี 2566 หลังจากนั้นจะเริ่มงานก่อสร้างโครงการในปี 2567 และเปิดให้บริการในปี 2569 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนเดิมที่ตั้งเป้าเปิดให้บริการในปี 2568”

กทพ.ลุยสร้างด่วนฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี 1.9 หมื่นล้าน

 

 

 นอกจากนี้โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงข่ายทางพิเศษที่สำคัญ และมีความจำเป็นในการพัฒนา เนื่องจากจะเป็นโครง การที่ช่วยเพิ่มความสะดวกปลอดภัย และประหยัดเวลาแก่ผู้ใช้เส้นทางที่เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังภาคกลางตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และถนนพหลโยธิน รวมไปถึงระบบโครงข่ายถนนปัจจุบันที่แนวเส้นทางโครงการตัดผ่าน