นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้ จะนัดหน่วยงานเศรษฐกิจหารือถึงแนวทางการพิจารณา หรืออาจต่ออายุมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาล ซึ่งจะมีบางมาตรการสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม นี้
สำหรับการหารือครั้งนี้ จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านเศรษฐกิจหารือ เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยประเด็นหลักจะรับฟังรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจ เงินเฟ้อ มาตรการลดค่าครองชีพ รวมไปถึงเรื่องการกู้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย
“จริง ๆ แล้วรัฐบาลได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาคุยกันแล้วเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมาแล้ว และจะมาสรุปข้อมูลกันในนี้ ทุกเรื่องว่าภาพรวมเป็นยังไง มาตรการอะไรที่จะจัดทำออกมา รวมถึงวงเงินที่จะใช้มีจากแหล่งไหนบ้าง หากได้ข้อสรุปแล้วในสัปดาห์หน้าจะพยายามเสนอให้ครม. พิจารณา” นายสุพัฒนพงษ์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ตอนนี้เพียงพอหรือไม่ โดยเฉพาะวงเงินภายใต้พ.ร.ก.กู้เงินฯ เพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท ซึ่งยังเหลือเงินอีกประมาณ 7 หมื่นล้านบาท รองนายกฯ ยอมรับว่า ก็คงใช้เงินส่วนนี้ ส่วนจะกู้อีกหรือไม่ เห็นว่า เงินก้อนนี้ยังเหลืออยู่ และนำไปใช้ในโครงการอื่น ๆ ได้ถึงเดือนกันยายน นี้
ส่วนการกู้เงินใหม่คงเป็นการกู้เงินเฉพาะในส่วนของเงินที่จะใช้สำหรับกองทุนน้ำมันเท่านั้น แต่ในรายละเอียดคงต้องมาคุยกันอีกที ซึ่งเรื่องนี้นั้นกระทรวงการคลัง ก็กำลังดูแนวทางอยู่
“ในหลักการนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้ดูภาพรวม ทุกหน่วยงานก็ได้มาดูภาพรวมว่าจะเดินหน้าไปยังไง ประเทศไทยจะเติบโตท่ามกลางเงินเฟ้อสูงแบบนี้ มีอะไรต้องทำ ทั้งเรื่องพลังงาน ราคาน้ำมัน หรือเรื่องของเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยจะดูหลาย ๆ ด้าน รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือประชาชนเสริมเติมเข้าไปด้วย”
อย่างไรก็ตามในมาตรการเบื้องต้นที่อาจทำออกมา คือการต่ออายุมาตรการเดิม เช่น การช่วยเหลือเรื่องค่าไฟฟ้า สำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 300 หน่วย อาจได้รับส่วนลดค่า FT ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงพลังงานกำลังพิจารณา เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ในมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาลที่ออกมา มีด้วยกันดังต่อไปนี้