แหล่งข่าวรายงาน สถานการณ์การสู้รบ ระหว่างกองกำลังทหารกะเหรี่ยง KNLA และ KNU พัน.27, พัน.103, พัน.201 พล.น.6, หน่วย KNDO และ กกล.PDF กับทหารเมียนมา พัน.คร.559 ด้านตรงข้าม บ.วาเล่ย์ใต้ ม.2 ต.วาเล่ย์ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณแนวพรมแดนไทย-เมียนมา เปิดฉากปะทะกันด้วยปืนเล็กยาวประจำกาย และปืน ค.ไม่ทราบขนาดจำนวนหลายสิบนัด บริเวณพื้นที่รอบ ๆ ฐานฯ อุเกรทะ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง
หลังจากนั้น กองกำลังทหารทั้งสองฝ่ายได้ใช้อาวุธหนักยิงสนับสนุน เพื่อควบคุมพื้นที่ฐานที่มั่นอย่างต่อเนื่อง โดยทหารเมียนมาจากพัน.ป.315 ฐานทีตาแหล่ ได้ยิงอาวุธหนัก ค.120 มม.ยิงสนับสนุนเป็นระยะ ๆ ไปยังบริเวณพื้นที่รอบ ๆ ฐานฯอุเกรทะ จำนวนหลายสิบนัด เพื่อไม่ให้ทหารชนกลุ่มน้อยลุกคืบปะชิดฐานได้ และจากการปะทะกันอย่างหนัก ทหารชนกลุ่มน้อยที่เข้าโจมตรีมีแนวโน้มว่าเข้าใกล้เกาะแนวฐานปฏิบัติการ ทหารเมียนมาจึงขอกำลังสนับสนุนทางอากาศ บินทิ้งระเบิดรอบ ๆ ฐานอุเกรทะ และใช้ปืนกลอากาศยิงสนับสนุนอย่างหนัก
แหล่งข่าวแจ้งว่า ฮ.ลำเลียงทหารเมียนมา ได้บินลงที่กองบังคับการยุทธวิธี (บก.ยว.) ที่ 1 บก.ควบคุมยุทธการที่ 13 ฐานฯทีตาแหล่ จากนั้นได้บินขึ้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ โดยการทิ้งระเบิดคลัสเตอร์บอมบ์ จำนวน 2 ลูกเข้าใส่บริเวณฐานฯอุเกรทะ
เนื่องจากกองกำลังทหารกะเหรี่ยง KNLA/KNU พล.น.6, หน่วย KNDO และ กกล.PDF ที่สามารถเข้ายึด ฐานฯอุเกรทะ ได้สำเร็จและอยู่ระหว่างการเข้าเคลียร์พื้นที่ ขณะที่ทหารเมียนมา ก็ใช้เครื่องบินรบทิ้งระเบิดใส่บริเวณพื้นที่รอบ ๆ ฐานฯอุเกรทะ ที่กองกำลังทหารชนกลุ่มน้อยยึดไว้ อย่างต่อเนื่องและรุนแรง เพื่อหวังจะยึดฐานนี้คืนกลับมาให้ได้ตามคำสั่งหน่วยเหนือ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวทางทหารในพื้นที่ เปิดเผยว่า พ.ต.วินมะยิ้น ผู้บังคับการหน่วยปฏิบัติการ VENOM กองพันคอมมานโด สังกัดกองกำลังองค์กรปกป้องชาติกะเหรี่ยง (KNDO) ร่วมกับหน่วยปฏิบัติการคอบร้า สังกัด กกล.KNLA สามารถเข้ายึดเนินที่สำคัญในฐานที่มั่นอุกริทะ บ.อุกริทะ อ.เมียวดี จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ได้สำเร็จ และปิดล้อมฐานไว้ ขณะเดียวกันทหารเมียนมา นำเครื่องบินโจมตี (ไม่ทราบแบบ) สนับสนุนการโจมตีทางอากาศ
ต่อมาเมื่อทหารทั้งสองฝ่ายยังคงเกิดการปะทะกันในฐานที่มั่นอุเกรทะ เนื่องจากยังเหลือพื้นที่อีก 1 เนิน ในฐานที่มั่นอุกริทะ ที่ไม่สามารถยึดได้ อีกทั้งทหารเมียนมากลับขึ้นมาวางกำลังบนเนินดังกล่าว โดยมีกองกำลังป้องกันชายแดน (BGF) สนับสนุนฝ่ายทหารเมียนมา
ทั้งนี้ หน่วยปฏิบัติการ VENOM กองพันคอมมานโด สังกัดกองกำลัง.องค์กรปกป้องชาติกะเหรี่ยง (KNDO) เข้าโจมตีฐานที่มั่นอุกริทะ ตั้งแต่วันที่ 27-29 มิถุนายน 2565 ซึ่ง ทหารเมียนมาสละพื้นที่ส่วนใหญ่ของฐานที่มั่นอุเกรทะ โดยมีทหารเมียนมาเสียชีวิตกว่า 20 นาย ฝ่ายทหารกะเหรี่ยง เสียชีวิตประมาณ 8 นาย
ด้านหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 บก.ควบคุม (ฉก.ร.14 )โดยร้อย ร.1413 จัดกำลังพลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อำนวยความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือราษฎรชาวเมียนมา ที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่ฝั่งสหภาพเมียนมา จำนวน 2 คน (เป็นผู้ชาย) โดยข้ามเข้ามายังฝั่งไทย บริเวณช่องทาง/ท่าข้าม บ้านมอเกอร์ไทย ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อนำตัวไปเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลพบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะและขา