“เบทาโกร” ผนึก “มจธ.” พัฒนานวัตกรรม เพิ่มศักยภาพซัพพลายเชน-โลจิสติกส์

20 ก.ค. 2565 | 12:40 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.ค. 2565 | 20:03 น.

“เบทาโกร” ผนึก “มจธ.” สร้างนวัตกรรม เพิ่มศักยภาพ การแข่งขันด้านการจัดการห่วงโซ่อุปทานและระบบโลจิสติกส์ สอดรับกลยุทธ์ Powering Change ยกระดับ Supply Chain Resilience

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เบทาโกร ได้ร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านโลจิสติกส์ ลงนามความร่วมมือด้านการวิจัย โครงการพัฒนานวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่อุปทานและระบบโลจิสติกส์ (Supply Chain & Logistics Excellence) ของธุรกิจเบทาโกร มุ่งสร้างนวัตกรรม เพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการบริหารห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ ตอบสนองกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจ “Betagro Powering Change” ด้าน Supply Chain Resilience และ Digital Transformation 

 

ในปีนี้เบทาโกรตั้งเป้าที่จะนำร่องศึกษาวิจัย และพัฒนาส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสุกร หลังจากนั้น จะขยายให้ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน และระบบโลจิสติกส์ของธุรกิจเบทาโกร

จากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เบทาโกรจึงให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพิ่มผลิตภาพ และประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต โดยเฉพาะการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมใหม่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มมูลค่า และตอบสนองความต้องการของลูกค้า และคู่ค้าที่อยู่ในห่วงโซ่ธุรกิจของเบทาโกร  

“เบทาโกร”  ผนึก “มจธ.” พัฒนานวัตกรรม เพิ่มศักยภาพซัพพลายเชน-โลจิสติกส์

ความร่วมมือด้านการวิจัย ของเบทาโกรกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านโลจิสติกส์ ภายใต้โครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่อุปทานและระบบโลจิสติกส์ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการส่งเสริม สนับสนุน การวิจัย และการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ (Supply Chain & Logistics) ให้กับธุรกิจของเบทาโกรเองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มองค์ความรู้และศักยภาพให้กับการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ของอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรอีกด้วย  

รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่าง มจธ. และเบทาโกร สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาอุดมศึกษาของประเทศ ที่เป็นแหล่งสนับสนุนการสร้างงานและนำความรู้ไปแก้ปัญหาผ่านความร่วมมือกับภาคเอกชนและท้องถิ่น รวมทั้งเป็นไปตามทิศทางการพัฒนาของ มจธ. ที่มุ่งมั่นในการผลิตกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มี Employability ใน Global market และเป็น Social Change Agent ตลอดจนผลิตงานวิจัย และงานบริการวิชาการให้ตอบโจทย์ ชี้นำภาคอุตสาหกรรมและสังคมต่อไป   

 

มจธ. มีศูนย์ความเป็นเลิศด้านโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยเฉพาะทางที่มีประสบการณ์งานวิจัยกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนมากว่า 20 ปี มีผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ที่พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อยกระดับการดำเนินงานด้าน Supply Chain & Logistics ของเบทาโกรได้อย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทในปัจจุบัน และในอนาคต  

 

ด้าน ผศ.ดร.พงษ์ชัย อธิคมรัตนกุล ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวเสริมว่า ธุรกิจอาหารและปศุสัตว์มีความสำคัญ และมีคุณค่าเป็นอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย เพราะไทยเป็นสังคมเกษตรกรรมมาอย่างยาวนาน ขณะเดียวกัน  ก็เผชิญความท้าทายใหม่ ๆ เข้ามาอย่างมากมาย ส่งผลกระทบธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้ภาคธุรกิจจำเป็นต้องเร่งปรับตัวและผ่าฟันข้อจำกัดต่าง ๆ ด้วยความมุ่งมั่น พร้อมก้าวไปสู่เป้าหมายสำคัญด้านความมั่นคงทางอาหาร (Food Security)  

สำหรับโครงการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตลอดห่วงโซ่อุปทานและระบบโลจิสติกส์ เบทาโกรได้ทำงานกับพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจและภาคส่วนต่าง ๆ ด้วยกลยุทธ์ Betagro Powering Change ในด้าน Supply Chain Resilience ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ด้าน ที่จะเพิ่มความเข้มงวดรัดกุมของระบบ Biosecurity ให้มีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบจากความไม่แน่นอนของปัจจัยแวดล้อม ตลอดจนถึงการมองหาโอกาสในการปรับปรุงการดำเนินงานในปัจจุบันและอนาคตควบคู่กันไป