นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจาก ร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อม พ.ศ. …. ได้ผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการกำกับดูแลการเพาะปลูกพืชกระท่อม การขายและการนำเข้าหรือการส่งออกใบกระท่อม เพื่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประชาชนมากที่สุด
พร้อมกำหนดมาตรการกำกับดูแลการขาย การโฆษณาและการบริโภคใบกระท่อมเพื่อคุ้มครองสุขภาพของบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปีและบุคคลกลุ่มเสี่ยงอื่น
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสังเกตจากคณะกรรมธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฯ จากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งรัฐบาลเห็นชอบที่จะรับไปพิจารณาต่อไป เพื่อให้การใช้พืชกระท่อมเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในด้านการแพทย์และเศรษฐกิจ และป้องกันความเสี่ยงจากการบริโภคที่ไม่เหมาะสม
โดย กระทรวงยุติธรรม จะเป็นหน่วยงานหลักในการรับข้อสังเกตดังกล่าว และนำไปพิจารณาร่วมกันกับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และต้องนำกลับมาเสนอสำนักเลขาคณะรัฐมนตรีต่อไป
สำหรับข้อสังเกต มีด้วยกันดังนี้
นางสาวรัชดา กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการใช้พืชกระท่อมในทางการแพทย์ ขับเคลื่อนให้เป็นพืชเศรษฐกิจ และสร้างรายได้แก่เกษตรกร
ขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและขยายกระท่อมพันธุ์ดี แจกจ่ายแก่เกษตรกรหลายแสนต้นไปแล้ว เพื่อให้ปลูกเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านในครัวเรือน และสามารถนำไปพัฒนาอาชีพเป็นพืชทางเลือกในอนาคต
ส่วนการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา รัฐบาลส่งเสริมการสกัดสารไมทราไจนีน” (Mitragynine) ในใบกระท่อมเพื่อมาใช้ประโยชน์ทำผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และอื่น ๆ เช่น ต้านโรคซึมเศร้า บรรเทาอาการพาร์กินสัน เป็นต้น มั่นใจได้ว่า พืชกระท่อมจะเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญอีกชนิดหนึ่งของประเทศอย่างแน่นอน