นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 และแนวโน้มปี 2565 ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทย ไตรมาสที่ 2 ขยายตัว 2.5% ซึ่งเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 2.3%
ทั้งนี้เป็นผลกระทบจากส่งออกบริการเพิ่มขึ้นถึง 54.3% เช่นเดียวกับการบริโภคภาคเอกชน และการอุปโภคภาครัฐที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งภาคการผลิตที่ขยายตัวได้ดี ยกเว้นสาขาการก่อสร้างที่ยังติดลบ
“เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวดีขึ้น จากส่งออกสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ทำให้ช่วงครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.4% ซึ่งตัวเลขนี้ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 2564” เลขาสภาพัฒน์ฯ ระบุ
ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2565 สศช.ได้ปรับการประมาณใหม่จากเดิม คาดว่า GDP จะขยายตัวได้ประมาณ 2.5 – 3.5% เป็นขยายตัว 2.7 - 3.2% หลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัว ทั้งการบริโภคภายในประเทศ การท่องเที่ยว และภาคการเกษตร
แต่ก็ต้องติดตามความเสี่ยงจากการผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก ภาระหนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจ ท่ามกลางแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ย ความไม่แน่นอนของการระบาดไวรัสโควิด-19 และฝีดาษลิง รวมทั้งความเสี่ยงจากน้ำท่วม
นายดนุชา กล่าวว่า เสถียรภาพทางเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยในปี 2565 คาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 7.9% การอุปโภคบริโภค ขยายตัว 4.4% และการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 3.1% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ในช่วง 6.3 – 6.8% และดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 1.6% ของ GDP
รายละเอียดของการประมาณการเศรษฐกิจในปี 2565 ในด้านต่าง ๆ มีดังนี้
การใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภค
การลงทุน
การส่งออก
มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินดอลลาร์ สรอ. คาดว่าจะขยายตัว 7.9% เทียบกับ 19.2% ในปี 2564 และปรับเพิ่มจาก 7.3% ในการประมาณการครั้งก่อน ตามการปรับเพิ่มสมมติฐานราคาส่งออกจากเดิม 3.3 – 4.3% ในการประมาณการครั้งก่อนเป็น 4.0 – 5.0% ในการประมาณการครั้งนี้
ขณะที่ปรับลดประมาณการปริมาณการส่งออกสินค้าจากการขยายตัว 3.5% ในการประมาณการครั้งก่อนเป็น 3.4% ตามการปรับลดสมมติฐานการขยายตัวของเศรษฐกิจและปริมาณการค้าโลก
เมื่อรวมกับการปรับเพิ่มปริมาณการส่งออกบริการตามการปรับเพิ่มสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการในปี 2565 มีแนวโน้มที่จะขยายตัว 9.0% เทียบกับการขยายตัว 8.3% ในการประมาณการครั้งก่อน และ 10.4% ในปี 2564