“จุรินทร์”ปลื้ม ส่งออก 7 เดือนแรกพุ่ง 5.7 ล้านล้าน เป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง

26 ส.ค. 2565 | 05:46 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ส.ค. 2565 | 13:10 น.

“จุรินทร์” ปลื้มปริ่ม ส่งออก 7 เดือนแรกโต 11.5% มูลค่ากว่า 5.77 ล้านล้านบาท เป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง ขณะค้าชายแดน-ผ่านแดน 7 เดือนแรก แตะ 6 แสนล้าน ช่วยดันเศรษฐกิจไทยไปต่อ สั่งการทูตพาณิชย์ทั่วโลกอัดกิจกรรมดันส่งออกโค้งท้าย มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งปีตัวเลขยังเป็นบวก

 

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศและการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนกรกฎาคม และ 7 เดือนแรกของปี 2565 ว่า การส่งออกในเดือนกรกฎาคมล่าสุด มีมูลค่ารูปเงินบาท 829,029 ล้านบาท ขยายตัว 4.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะภาพรวมการส่งออกไทยช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) มีมูลค่า 5.77 ล้านล้านบาท ขยายตัว 11.5%

 

“จุรินทร์”ปลื้ม ส่งออก 7 เดือนแรกพุ่ง 5.7 ล้านล้าน เป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง

 

โดยการส่งออกสินค้า 3 หมวดสำคัญ ได้แก่ สินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม โดยมีการส่งออกดังนี้

 

หมวดสินค้าเกษตร เดือนกรกฎาคมมีมูลค่าส่งออก 82,082 ล้านบาท ขยายตัวลดลง -0.3% เนื่องจากปีนี้ผลไม้ซึ่งเป็นตัวส่งออกในหมวดสินค้าเกษตรหมดฤดูเร็วกว่าหลายปีที่ผ่านมา จึงไม่มีของส่งออก ขณะที่ในช่วงผลผลิตผลไม้ออกมามากช่วงเดือนก่อนหน้า กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับเอกชนและเกษตรกรประสบความสำเร็จในการเร่งรัดการส่งออกผลไม้ไปตลาดจีนได้เป็นอย่างดี

 

“จุรินทร์”ปลื้ม ส่งออก 7 เดือนแรกพุ่ง 5.7 ล้านล้าน เป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง

 

สินค้าเกษตรสำคัญ เช่น 1.ผลไม้แช่แข็งและผลไม้แห้งการส่งออกเดือน ก.ค. มีมูลค่า 4,495 ล้านบาท +94.3% โดยเฉพาะทุเรียนแช่แข็ง +126.2% ขยายตัวได้ดีในตลาดจีน ออสเตรเลียและไต้หวัน ลำไยแห้ง +7 เดือนต่อเนื่อง  ก.ค. +66.3% ขยายตัวได้ดีในตลาดจีนและมาเลเซีย 2.ไก่สดแช่เย็น แช่แข็งและไก่แปรรูป +3 เดือนต่อเนื่อง ก.ค. +35.5% ทำเงินเข้าประเทศ 12,681 ล้านบาท 3.ข้าว ขยายตัว 6 เดือนต่อเนื่อง ก.ค. +21.5% ทำเงินเข้าประเทศ 10,173 ล้านบาท ขยายตัวดีในตลาดอิรัก โมซัมบิก ฟิลิปปินส์ เซเนกัล และญี่ปุ่น 4.ยางพารา ขยายตัว 3 เดือนต่อเนื่อง ก.ค. +12% ทำเงินเข้าประเทศ 16,533 ล้านบาท โดยขยายตัวในตลาดสหรัฐฯ มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอินเดีย

 

“จุรินทร์”ปลื้ม ส่งออก 7 เดือนแรกพุ่ง 5.7 ล้านล้าน เป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง

 

หมวดที่ 2 สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวเป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง โดยเดือนก.ค. +38.1% ทำเงินเข้าประเทศ 72,517 ล้านบาท สินค้าสำคัญ เช่น น้ำตาลทราย ก.ค. +258.8% ทำเงินเข้าประเทศ 14,021 ล้านบาท ไอศครีมเป็นดาวรุ่งตัวใหม่ +26 เดือนต่อเนื่อง ก.ค.+ 34.2% มูลค่า 480 ล้านบาท  อาหารสัตว์เลี้ยง +35 เดือนต่อเนื่อง ก.ค. +25.4% ทำเงินเข้าประเทศ 8,466 ล้านบาท ผลไม้กระป๋องและแปรรูป +15 เดือนต่อเนื่อง ก.ค. +17.3% ทำเงิน 6,148 ล้านบาท อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป +6 เดือนต่อเนื่อง ก.ค. +16.4% ทำเงินเข้าประเทศ 11,442 ล้านบาท

 

“จุรินทร์”ปลื้ม ส่งออก 7 เดือนแรกพุ่ง 5.7 ล้านล้าน เป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง

 

หมวดที่ 3 สินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวเป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง โดยเดือน ก.ค. ทำเงินเข้าประเทศ 630,844 ล้านบาท +0.1% ผลจากภาวะการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์หรือชิป ส่งผลระทบกับการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมทั้งโลก รวมถึงผลกระทบจากไต้หวันซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่คลองตลาดประมาณ 40% ของโลกที่มีปัญหาความขัดแย้งกับจีน

 

สินค้าสำคัญ เช่น เครื่องโทรสาร โทรศัพท์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ก.ค. +34.6% ทำเงินเข้าประเทศ 13,579 ล้านบาท เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ก.ค.+25.5% ทำเงิน 19,585 ล้านบาท ขยายตัวดีในตลาดสหรัฐฯ ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไต้หวันและอินเดีย ผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียม ก.ค. +21.4% ทำเงินเข้าประเทศ 9,632 ล้านบาท อัญมณีและเครื่องประดับ +17 เดือนต่อเนื่อง ก.ค. +19.1% เป็นเงิน 21,151 ล้านบาท เครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิว +11 เดือนต่อเนื่อง ก.ค. +13.6% ทำเงินเข้าประเทศ 9,894 ล้านบาท  เครื่องนุ่งห่ม +17 เดือนต่อเนื่อง ก.ค. +10.7% ทำเงิน 7,138 ล้านบาท ขยายตัวดีในตลาด สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เยอรมนี ออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์

 

“จุรินทร์”ปลื้ม ส่งออก 7 เดือนแรกพุ่ง 5.7 ล้านล้าน เป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง

 

สำหรับภาพรวมตลาดที่ขยายตัวดี 10 อันดับแรก ในเดือนกรกฎาคม  ได้แก่ 1. เกาหลีใต้ (+39.4%) 2.ตะวันออกกลาง (+27.4%) 3.แคนาดา (+27.3%) 4.CLMV See  (+24.2%) 5.อาเซียน(5) (+21.3%) 6.เอเชียใต้ (+21.1%) 7.ทวีปออสเตรเลีย (+20%) 8.สหรัฐราชอาณาจักร (+17.2%) 9.สหภาพยุโรป (+8.1%) และ10.สหรัฐอเมริกา (+4.7%)

 

ปัจจัยบวกต่อการส่งออกของไทยในช่วงที่ผ่านมา มี 4 ปัจจัยสำคัญ

1.ความต้องการอาหารจากทั่วโลกยังเติบโตต่อเนื่อง ทำให้สินค้าเกษตรอาหารยังไปได้ในการส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกเนื้อสัตว์ปีกเติบโตได้ดี

2.การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดและการผ่อนคลายประเทศให้มีการท่องเที่ยวทำให้สินค้าบางส่วน เช่น อัญมณีเครื่องประดับ เครื่องสำอาง สบู่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เครื่องนุ่งห่ม อุปกรณ์การเดินทางขยายตัวได้ดีขึ้น

3.ค่าระวางเรือมีแนวโน้มลดลง ความหนาแน่นและความล่าช้าลดลง ในการขนส่งบริเวณท่าเรือสำคัญของโลก ที่ทำให้ระบบการขนส่งคล่องตัวไม่เป็นอุปสรรคในการส่งออก

4.การที่ค่าเงินบาทยังอ่อนค่า ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านราคาของสินค้าไทยในตลาดโลกโดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร

 

“จุรินทร์”ปลื้ม ส่งออก 7 เดือนแรกพุ่ง 5.7 ล้านล้าน เป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง

 

ด้านการค้าชายแดน ซึ่งเป็นอีกส่วนที่สำคัญต่อตัวเลขการส่งออกในเดือน ก.ค. 65 การส่งออก ผ่านการค้าชายแดน +27.8% ทำเงินเข้าประเทศ 51,665 ล้านบาท 7 เดือนแรกปีนี้ การส่งออกผ่านการค้าชายแดน 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย เมียนมา ลาวและกัมพูชา ทำเงินเข้าประเทศรวมกัน 376,074 ล้านบาท +19.9%

 

โดยมาเลเซียที่เป็นคู่ค้าชายแดนอันดับหนึ่งของไทย ก.ค.65 +23.4% มูลค่าส่งออก 15,255 ล้านบาท สินค้าที่ขยายตัวสูง ยางรถยนตร์ +277% รถยนต์ อุปกรณ์ +154.8% ยางพารา +59.4%

 

เมียนมา ก.ค.ส่งออก 11,937 ล้านบาท +51.3%สินค้าที่ขยายตัวสูงในเมียนมา เช่น น้ำมันปาล์ม +286.1% น้ำมันดีเซล +79.9%, กัมพูชา ก.ค.65 +16.8% ทำเงินเข้าประเทศ 13,073 ล้านบาท, สปป.ลาว ส่งออก ก.ค. +27% มูลค่า 11,400 ล้านบาท สินค้าที่ส่งไปลาวที่ขยายตัวสูงมากคือ น้ำตาลทราย +838.7%

 

“จุรินทร์”ปลื้ม ส่งออก 7 เดือนแรกพุ่ง 5.7 ล้านล้าน เป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง

 

สำหรับการค้าผ่านแดน มี 3 ประเทศที่เป็นเป้าหมายการส่งออกหลัก คือ จีน เวียดนาม และสิงคโปร์  เดือน ก.ค.-27.3% ซึ่งสะท้อนความสำเร็จในการส่งสินค้าส่งออกของไทยในภาพรวม ที่สามารถแก้ปัญหาระบบการขนส่งได้ดี ลดการขนส่งทางบกไปจีนและเวียดนาม เพราะติดขัดปัญหาที่ด่านบ่อยและประสบความสำเร็จในการส่งสินค้าทางเรือและทางอากาศแทน ทำให้ตัวเลขส่งออกภาพรวมเป็นบวก โดยการส่งออกผ่านการค้าผ่านแดนไปจีน ก.ค. -32.8% เวียดนาม +40.7% สิงคโปร์ -25.1%

 

“จุรินทร์”ปลื้ม ส่งออก 7 เดือนแรกพุ่ง 5.7 ล้านล้าน เป็นบวก 17 เดือนต่อเนื่อง

 

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า คาดการส่งออกของไทยในปีนี้ยังเป็นบวก โดยปัญหาต่าง ๆ กระทรวงพาณิชย์จะจับมือกับภาคเอกชนร่วมมือกันแก้ปัญหาและจะเพิ่มแผนงานกิจกรรมต่าง ๆให้มากขึ้นเพื่อทำให้ตัวเลขรวมทั้งปีและ 5 เดือนที่เหลืออยู่ทำเงินเข้าประเทศให้ได้มากที่สุด

 

"ได้สั่งให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลก เร่งรัดทำแผนส่งออกทั้งเชิงรุกและเชิงลึก มายังกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และแผนงานทั้งหมดทำเสร็จสิ้นแล้ว ได้ดำเนินการทางปฏิบัติแล้ว เดิมกำหนดแผนการจัดกิจกรรมเชิงรุกและเชิงลึกทั้งปี 65 ไว้ 185 กิจกรรม หลังสั่งการให้ทูตพาณิชย์ลงไปดูเชิงรุกและเชิงลึก จะเพิ่มกิจกรรมอีก 345 กิจกรรม รวมเป็น 530 กิจกรรม เพื่อเร่งทำเงินเข้าประเทศและทำรายได้ให้ประเทศ ซึ่งวันที่ 14 กันยายนนี้ได้สั่งการให้มีการนัดประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง เพื่อทำให้ตัวเลขการส่งออกปี 65 ให้ดีที่สุด” นายจุรินทร์ กล่าว