นับแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 ถึง ณ ปัจจุบัน เป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้วที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกต้องสะดุด ส่งผลถึงการค้า การลงทุน และงานแสดงสินค้าเต็มรูปแบบต่าง ๆ ถูกชะลอออกไป แต่เวลานี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดเริ่มคลี่คลาย ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีน ทั่วโลกรวมทั้งไทยต่างเปิดประเทศเพื่อดึงนักท่องเที่ยว นักลงทุน และเร่งจัดกิจกรรมทางเศรษกิจเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง
นายพรพล เอกอรรถพร รักษาการผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ “SACIT” เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เพื่อเป็นการผลักดันภาพรวมการส่งออกไทยให้ได้ตามเป้าที่กระทรวงพาณิชย์วางไว้ SACIT ได้เตรียมจัดงานอัตลักษณ์แห่งสยามครั้งที่ 13 และ งาน CraftsBangkok 2022 งานแสดงสินค้าศิลปหัตถกรรมไทยและงานคราฟต์ยิ่งใหญ่แห่งปี รวม 2 งานใหญ่ไว้ในงานเดียวระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2565 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา มีผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 650 คูหา
ทั้งนี้คาดจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย สร้างเงินไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท และอีกเป้าหมายหนึ่งเพื่อเป็นการประกาศความพร้อมของการเปิดประเทศ และผลักดันผู้ประกอบการไทยขยายการค้าในเวทีโลก นอกจากนี้ในเดือนที่เหลือของปีนี้จะเร่งจัดกิจกรรมทั้งในและต่างประเทศให้มากขึ้น และแผนในปีหน้าคือการรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น จากยอดส่งออกของงานหัตถกรรมไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยภาพรวม 6 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่ารวม 164,579 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 33.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องเงิน เครื่องทอง มีมูลค่ามากที่สุด 80,268 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 43.48%
โดยผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าส่งออกมากที่สุด คือ เครื่องประดับแท้ทำด้วยทอง มีมูลค่า 4,993.65 ล้านบาท เครื่องประดับแท้ทำด้วยเงิน มูลค่า 4,870.48 ล้านบาท เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วนมูลค่า 4,637.39 ล้านบาท เสื้อผ้าสำเร็จรูปทำจากฝ้ายมูลค่า 1,920.37 ล้านบาท และเสื้อผ้าสำเร็จรูปทำจากวัตถุทออื่น ๆ 1,718.92 ล้านบาท
ตลาดส่งออกหลักที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย คือ สหรัฐฯ ยุโรป โดยสหรัฐฯ มีมูลค่า 9,334.39 ล้านบาท เยอรมนี 2,157 ล้านบาท ญี่ปุ่น 1,683 ล้านบาท สหราชอาณาจักร 1,600 ล้านบาท และฮ่องกง 1,071 ล้านบาท ส่วนประเทศที่การส่งออกขยายตัวมากที่สุด ได้แก่ อินเดีย รองลงมา มาเลเซีย เมียนมา สิงคโปร์ และกัมพูชา