thansettakij
ซื้อหนี้ประชาชน: รมว.คลัง เปิดรายละเอียดกลางที่ประชุมสภา

ซื้อหนี้ประชาชน: รมว.คลัง เปิดรายละเอียดกลางที่ประชุมสภา

25 มี.ค. 2568 | 12:37 น.
อัปเดตล่าสุด :25 มี.ค. 2568 | 12:42 น.

ซื้อหนี้ประชาชน - รมว.คลัง เปิดแผนช่วยลูกหนี้ 3 ล้านคน วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท มุ่งเป้าผู้ไม่มีศักยภาพชำระหนี้ พร้อมแก้ปัญหาเอ็นซีบี ล่าสุดธนาคารออมสินนำร่อง กว่า 4.5 แสนบัญชีใน 3 วัน

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายละเอียดนโยบาย "ซื้อหนี้ประชาชน" ระหว่างการชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยระบุว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายซื้อหนี้ทั้งระบบที่มีมูลค่ารวมสูงถึง 13.6 ล้านล้านบาท แต่จะเลือกซื้อเฉพาะหนี้เสียของกลุ่มเป้าหมายที่มีความเดือดร้อนอย่างแท้จริง

 

"การซื้อหนี้ประชาชนจะไม่ครอบคลุมกลุ่มที่ลูกหนี้กับเจ้าหนี้สามารถเจรจากันได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ขนาดใหญ่และมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เราจะมุ่งเน้นไปที่ลูกหนี้ที่ไม่มีศักยภาพในการชำระหนี้ ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน กู้มาเพื่อการอุปโภคบริโภค และเป็นกลุ่มที่เจ้าหนี้ตามตัวไม่ได้" รมว.คลังชี้แจง

จากการประเมินของกระทรวงการคลัง พบว่าจากหนี้ทั้งระบบ 13.6 ล้านล้านบาท มีหนี้ที่ไม่เสียปนอยู่ประมาณ 6 ล้านล้านบาท ส่วนกลุ่มลูกหนี้ที่มีปัญหาจริงๆ มีประมาณ 3 ล้านคน มีมูลค่าหนี้รวมประมาณ 1.2 แสนล้านบาท

 

"หนี้ที่มีปัญหาคือ 3 ล้านคน มีหนี้ติดอยู่ 1.2 แสนล้านบาท ด้วยเงินนิดเดียวทำให้คนมีความทุกข์ ซึ่งเราจะหาทางละเว้นเอ็นซีบี เฉพาะกลุ่มที่มีรหัสพิเศษ หากหลุดพ้นต้องหาทางกู้ใหม่ นี่คือการให้โอกาส แต่จะได้กู้หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิสูจน์ตัวเอง" นายพิชัยกล่าว

รมว.คลังยังเปิดเผยอีกว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินเป็นหน่วยงานนำร่องในการแก้หนี้ประชาชน โดยใช้งบประมาณ 4,000 ล้านบาท และคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งหลังจากเปิดโครงการเพียง 3 วัน มีประชาชนสนใจเข้าร่วมแล้วกว่า 4.5 แสนบัญชี

 

"วันนี้ให้ธนาคารออมสินนำร่องโดยใช้เงิน 4,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยน้อย พบว่าเปิดได้ 3 วัน มีเข้ามา 4.5 แสนบัญชี หากควบคุมได้กำกับดีจะช่วยแก้ปัญหาตัวเล็กๆ ได้" รมว.คลังย้ำ

 

สำหรับนโยบาย "ซื้อหนี้ประชาชน" เป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่มุ่งแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังและเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติและมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่