นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศปรับค่า FT รอบเดือนกันยายน - ธันวาคม 2565 ซึ่งปรับเพิ่มอีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย รวมเป็น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย โดยระบุว่า
ขณะนี้ได้สั่งสำนักงาน กกพ. เร่งออกมาตรการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้ารอบใหม่ โดยเฉพาะการดูแลกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง ที่รัฐบาลเคยได้ดูแลอยู่แล้วก่อนหน้านี้ คือการช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งจะสิ้นสุดมาตรการในเดือนสิงหาคม 2565
สำหรับมาตรการเบื้องต้นที่จะออกมานั้น รัฐบาลเตรียมพิจารณาต่ออายุการช่วยเหลือให้คนกลุ่มนี้ แต่ตอนนี้ขอพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือก่อน ทั้งกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน และกลุ่มใช้ไฟฟ้าเกิน 300 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน ซึ่งจะมีแนวทางในการช่วยเหลือออกมาเฉพาะกลุ่ม
“มาตรการดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าไฟรอบใหม่นี้ อีกไม่นานจะออกมาทันการดูแลช่วยเหลือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบาง โดยต้องการให้มีผลบังคับใช้ให้ทันในช่วงการปรับขึ้นค่าไฟรอบเดือนกันยายน - ธันวาคม 2565 ส่วนงบประมาณที่ใช้ จะเสนอของบกลางมาดำเนินการ” นายสุพัฒนพงษ์ ระบุ
อย่างไรก็ตามในระยะเวลาการดำเนินมาตรการช่วยเหลือครั้งนี้ รองนายกฯ ยอมรับว่า อาจช่วยเหลือยาวไปถึงสิ้นปี 2565 ให้สอดคล้องกับรอบการปรับขึ้นค่าไฟรอบเดือนกันยายน - ธันวาคม 2565 นี้ เพื่อเป็นการประคับประคองให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้
“ทุกรัฐบาลในโลกนี้ก็หนักใจในเรื่องของการบริการนโยบายด้านพลังงานกันหมด และต้องดูแลคนที่เดือดร้อนในช่วงนี้ ซึ่งรัฐบาลจะดูแลอย่างเต็มที่” รองนายกฯ ยืนยัน