นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(สกนช.) ในฐานะผู้ช่วยเลขาคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กบน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนมีแนวคิดส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ที่มีส่วนผสมเอทานอล 20% เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน
ซึ่งยังอยู่ระหว่างศึกษาและหารือกับกรมธุรกิจพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ E20 ราคาถูกกว่าน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ลิตรละประมาณ 3 บาท เป็นการจูงใจให้คนหันมาใช้ E20 มากขึ้น คาดว่าจะเริ่มทยอยดำเนินการได้ในช่วงเดือนธ.ค.2565 หรือเดือนม.ค.2566
สำหรับปัจจุบันราคาขายปลีก E20 และ E85 ต่างกัน 1.40 บาทต่อลิตร โดย E20 อยู่ที่ 33.34 บาทต่อลิตร กองทุนอุดหนุน 82 สตางค์ต่อลิตร ราคาขายปลีก E85 อยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร กองทุนอุดหนุน 53 สตางค์ต่อลิตร
ซึ่งส่วนต่างที่จูงใจน่าจะห่างกัน 3 บาทต่อลิตร เพราะต้องยอมรับว่าหากยกเลิก E85 ผู้ใช้ก็จะหันไปใช้แก๊สโซฮอล์ 91 ดังนั้นกองทุนและกรมธุรกิจพลังงานต้องหาวิธี โดยช่วงแรกคงต้องอาศัยผู้ค้าลดราคาให้ต่างกัน เพราะเงินกองทุนอาจมีไม่เพียงพอ
ขณะที่ สกนช.จะพยายามประชาสัมพันธ์แจ้งให้ประชาชนรับทราบก่อนเพื่อทำความเข้าใจและหมดข้อกังวลเรื่องเครื่องยนต์เพราะรถยนต์รุ่นใหม่ใช้ E20 ได้หมดแล้ว
สำหรับแนวทางการส่งเสริมน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ(เอทานอล-ไบโอดีเซล) ตามแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง(Oil Plan) ที่กรมธุรกิจพลังงานอยู่ระหว่างจัดทำ มีแผนยกเลิกการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ E85 ในที่สุด โดยทางเลือกที่ดำเนินการอยู่ระหว่างนี้คือการใช้กลไกราคาขายปลีกระหว่างแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 ที่ไม่ต่างกันมาก เพื่อหนุนให้คนหันมาใช้แก๊สโซฮอล์ 95 แทน ส่วน E85 ลดการอุดหนุนจากกองทุนลง
ส่วนความคืบหน้าการออกร่างพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) พ.ศ. ... และการกู้ยืมเงินของ สกนช. กรอบวงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างคณะกรรมการกฤษฎีกายกร่าง เบื้องต้นคาดว่าจะกู้เงินก้อนแรก 20,000 ล้านบาทเข้ากองทุนได้ช่วงเดือนพ.ย.นี้ และอาจมีธนาคารพาณิชย์รายอื่นมายื่นข้อเสนอเพิ่มเติมให้กองทุนพิจารณาเพิ่มเติมนอกเหนือจากธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย