นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในรอบครึ่งปีแรก 2565 ว่า มียอดขายเติบโตแข็งแกร่ง จากการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
คาดครึ่งปีหลังยังคงเติบโตต่อเนื่อง จากปริมาณยอดขายเอทานอลที่ยังแข็งแกร่ง และยอดออเดอร์ของแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค และฟลาวมันสำปะหลัง ที่เป็นผลิตภัณฑ์มาร์จิ้นสูงเพิ่มมากขึ้น
“ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศดีขึ้นจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย การเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ และเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลเชิงบวกต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ทำให้มั่นใจว่าปีนี้ บริษัทฯ จะสร้างรายได้ให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ประมาณ7-8 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10-15%” นางสาวสุรียส กล่าว
สำหรับแนวโน้มภาพรวมของธุรกิจในครึ่งหลังปี 2565 เชื่อว่าจะมีการเติบโตตามเป้าหมายรายประมาณ 550 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิต และปรับปรุงประสิทธิภาพ ทั้งสายการผลิตเอทานอลและสายการผลิตแป้ง
โดยวางเป้าเพิ่มกำลังการผลิตแป้ง ฟลาวมันสำปะหลังเป็น 300 ตันต่อวัน จากปัจจุบันที่ผลิตได้ 100 ตันต่อวัน ตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลังอันดับหนึ่งของประเทศไทย ส่วนธุรกิจเอทานอลสำหรับแนวโน้มภาพรวมของธุรกิจในครึ่งหลังปี 2565 เชื่อว่าจะมีการเติบโตตามเป้าหมายรายได้ทั้งปีที่วางไว้ที่ 10-15%
ทั้งนี้ ได้เดินหน้าตามแผนการลงทุนประมาณ 550 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิต และปรับปรุงประสิทธิภาพ ทั้งสายการผลิตเอทานอลและสายการผลิตแป้ง
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ในกลุ่มแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค ที่หันมาใส่ใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้น และรักษาฐานลูกค้าตลาดในประเทศและต่างประเทศ เช่น ยุโรปและอเมริกา เป็นต้น
ประกอบกับบริษัทฯ ได้ขยายช่องทางการจำหน่ายฟลาวมันสำปะหลังในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าทั่วไปเพิ่มขึ้น ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย และสะดวกต่อการจับจ่าย นับเป็นปัจจัยเสริมให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่ม
ด้านนายชุณห์ โภไคศวรรย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบัญชีและการเงิน UBE สรุปผลการดำเนินงานของ UBE ในรอบครึ่งแรกของปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,366 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 417 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 199 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 87.0 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยหากมองในแง่ผลประกอบการจากการดำเนินงานของธุรกิจหลัก ในไตรมาส 2 ใกล้เคียงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา แต่ได้รับผลกระทบจากการปิดซ่อมบำรุงตามแผนประจำปี และรายการขาดทุนจากการประกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนบางส่วน โดยธุรกิจเอทานอลมีมาร์จิ้นที่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า มาจากปริมาณยอดขายเอทานอลเกรดอุตสาหกรรม ที่มากกว่าคาดการณ์
ส่วนธุรกิจแป้งเติบโตจากไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งยอดขายแป้งมันสำปะหลังแบบทั่วไปและแบบออร์แกนิค โดยเฉพาะในส่วนของแป้งมันสำปะหลังแบบออร์แกนิค ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในต่างประเทศ เช่น ยุโรปและอเมริกา เป็นต้น ในขณะที่ฟลาวมันสำปะหลังมียอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 1,000 ตัน ในช่วงครึ่งปีแรก หากเทียบกับยอดทั้งปีของปีที่แล้วที่มีเพียง 199 ตันเท่านั้น