ปัจจุบันราคาสินค้าหลายรายการเตรียมจะปรับขึ้นราคาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นตามราคาพลังงาน ซึ่งแน่นอนว่ากระทบกับผู้บริโภคที่ต้องแบกรับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการควบคุมดูแลราคาสินค้าและบริการไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาสินค้าของผู้ประกอบการ กระทรวงพาณิชย์ในฐานะที่เป็นกระทรวงปลายน้ำซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลกับกับการขอขึ้นราคาสินค้า ที่มีคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.)ดูแลอยู่จึงต้องมีการกำหนดกลุ่มสินค้า และบริการว่ากลุ่มไหนควรเฝ้าดูแล กลุ่มไหนควรกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
เช่น กลุ่มสินค้า Sensitive List (SL) ซึ่งเป็นสินค้าและบริการที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ ติดตามราคาและภาวะทั้งในประเทศและ ต่างประเทศเป็นประจำทุกวัน พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่กองตรวจสอบและปฏิบัติการ ตรวจสอบราคา จำหน่ายเข้มงวดและต่อเนื่อง ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล
กลุ่ม Priority Watch List (PWL)เป็นสินค้าที่ติดตาม ภาวะและสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หากเกิดวิกฤติขาดแลคนสอนค้านั้นๆจะต้องห้ามมีการกักตุนซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างเข้มงวดและออกมาตรการคุมและกลุ่มสุดท้ายคือ Watch List (WL) คือ เป็นกลุ่มสินค้าที่เป็นของกินของใช้ในชีวิตประจำวันจะมีการกำกับดูแลไม่ให้ผู้ประกอบการเอาเปรียบแอบขึ้นราคา
โดยมีสินค้า219รายที่มีกระทรวงพาณิชย์ต้องติดตามดูแลไม่ให้มีการขึ้นราคาเกินจริงหรือแพงเกินไปจนเอาเปรียบผู้บริโภค ที่มี11กลุ่มสินค้า 219สินค้า
- หมวดอาหาร มี21 รายการที่ขึ้นราคาได้แต่ต้องไม่เอาเปรียบผู้บริโภคเกินจริง เช่น ไก่สด ไข่ไก่ ไข่เป็ด เนื้อโค สุกรชำแหละ ปลาดุก ปลานิล มะนาว พริก กะหล่ำปลี ผักบุ้ง กวางตุ้ง ผักชี ต้นหอม เป็นต้น
- หมวดอาหารและเครื่องดื่ม มี41 รายการที่ยังห้ามขึ้น ถ้าจะขึ้นผู้ประกอบบการ ผู้ผลิตจะต้องทำเรื่องขอปรับราคามาที่กรมการค้าภายใน และชี้แจงเหตุผลที่ขอปรับราคา เช่น อาหารสำเร็จรูป ข้าวสารบรรจุถุง นมผง นมสด น้ำมันถั่วเหลือง นมข้นหวาน ครีมเทียม น้ำแข็ง น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชา กาแฟสำเร็จรูป เหลือ น้ำตาลทราย น้ำมันพืช น้ำปลา ซีอิ้ว ผงชูรส วุ้นเส้น กะทิบรรจุภาชนะปิดผนึกเป็นต้น
- ส่วนหมวดของใช้ประจำวันมี30รายการ เช่น ครีมบำรุงผิว โฟมล้างหน้า ผ้าอนามัย สบู่ ยาสีฟัน แป้งโรยตัว ผงซักฟอก น้ำยารีดผ้า ผลิตภัณฑ์ล้างจาน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ ถ่านไฟฉาย ใบมีดโกน เป็นต้น
- หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์ มี7รายการ เช่น เยื่อกระดาษ กระดาษเหนียว กระดาษทำลูกฟูก กระดาษปรู๊ฟ กระดาษชำระและกระดาษเช็ดหน้า เศษกระดาษเป็นต้น
- หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้ามี 16 รายการ เช่น หลอดไฟฟ้า เครื่องเป่าผม พัดลม หม้อหุงข้าว ตู้เย็น เตารีด เครื่องดูดฝุ่น เป็นต้น
- หมวดบริการขนส่ง มี13รายการเช่น รถยนต์นั่ง รถยนต์บรรทุกเล็ก รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน ผ้าเบรก ยางรถยนต์ แบตเตอรี่ เป็นต้น
- หมวดวัสดุก่อสร้าง มี28รายการ เช่น กระเบื้องปูฟื้น ปูผนัง กระเบื้องมุงหลังคา กระจก ท่อ พี วีซี สังกะสี เหล็กเส้น หิน ทราย ปูน อิฐมอญ อิฐมวลเบา คอนกรีตบล็อก ถังดักจับไขมัน เป็นต้น
- หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม มี14รายการ เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเต่ แก๊สหุงต้ม แก๊สรถยนต์ ถึงพลาสติก ถุงพลาสติกหิ้ว NGV เป็นต้น
- หมวดยารักษาโรค มี11 รายการ เช่น แอลกอฮอล์ล้างแผล ยาแก้ปวด ยาแก้ไขหวัด ยาบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ สำลี หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ยาฟ้าทะลายโจร เป็นต้น
- หมวดสินค้าเกษตร มี 9 รายการ เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ กระเทียม ทุเรียน มังคุด ลำไย หอมหัวใหญ่ เป็นต้น
- หมวดปัจจัยทางการเกษตร มี 15 รายการ เช่น รถไถเดินตาม รถแทรกเตอร์ รถตัดหญ้า รถเกี่ยวข้าวรถนวดข้าว เครื่องสูบน้ำ จอบ เสียม ปุ๋ย ปลาป่น อาหารสัตว์ เป่นต้น
- และหมวดทั่วไปมี14 รายการ เช่น แผ่นเหล็กเคลือบดีบุก ถุงเท้านักเรียน รองเท้านักเรียน เครื่องกรองน้ำ ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก(คาร์ซีท) แม่ไก่ กล้องวงจรปิดเป็นต้น
ซึ่ง11 หมวดสินค้า219รายการนี้เป็นสินค้าที่กระทรวงพาณิชย์เฝ้าติดตามดูแลห้ามให้ขึ้นราคาตามอำเภอใจ ซึ่งเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 กกร.มีมติเห็นชอบต่ออายุรายการสินค้าและบริการควบคุมออกไป 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 เนื่องจากอายุของรายการสินค้าและบริการควบคุมจะครบกำหนดแล้ว โดยมีรายการสินค้า 46 รายการ และบริการ 5 รายการ รวมเป็น 51 รายการ