นายเดชา นุตาลัย อุปนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” จากกรณีที่ กรมการข้าว ได้ตอบกระทู้สด งบประมาณ 1.5 หมื่นล้าน ของกรมการข้าว ที่ได้ชี้แจงโครงการสนับสนุนลดต้นทุน 15,260 ล้านบาท เป็นโครงการที่ดำเนินการสนับสนุนเงินอุดหนุนให้กลุ่มเกษตรกร (ศูนย์ข้าวชุมชน) ไปจัดซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อใช้ในการลดต้นทุนการผลิตข้าว ศูนย์ข้าวชุมชนตั้งอยู่แล้วและจะจัดตั้งศูนย์ข้าวชุมชนเพิ่มขึ้นใหม่ รวมประมาณ 5,000 ศูนย์
โดยเป็นศูนย์ข้าวชุมชน 2,436 ศูนย์ กระจายอยู่ทั่วประเทศ นั้น ทำให้เกิดความสับสนทั้งที่สำนักงบประมาณ ให้จ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา 700 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 5 ไร่ จ่ายสูงสุด 3,500 บาท ทำได้ด้วยหรือ (คลิกอ่าน) เพราะมีการตราพระราชบัญญัติออกมาแล้ว จะต้องแก้ แล้วทำเรื่อง ครม.อนุมัติใหม่ มองว่าความเป็นไปได้แทบจะไม่มีเลย ทั้งที่อนุฯ กมธ. ก็ติงในเรื่องนี้ทุกครั้ง จึงทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีใคร ไปรับอะไรจากบริษัท ห้างร้านต่างที่ขายเครื่องจักรกลการเกษตรมาหรือไม่ เนื่องจากบริษัทดังกล่าวเป็นผู้จำหน่าย ซึ่งการให้ข่าวสับสนไปหมด
"ที่ผ่านมา กรมการข้าว ได้ชี้แจงว่า งบประมาณ 1.5 หมื่นล้าน ของกรมการข้าว เป็นงบก้อนเดียวกันกับโครงการไร่ละ 1,000 บาท ที่ชาวนาทั่วประเทศจะได้รับสูงสุด 2 หมื่นบาท สำนักงบประมาณชี้แจงว่าให้จ่ายตามงบที่กรมการข้าวขอ แต่ในคำขอ ไม่มีคำว่า “ศูนย์ข้าวชุมชน” แต่กรมการข้าวก็ยังออกข่าวบิดเบือนทำให้สับสน ทำให้ชาวนาทะเลาะกัน เกิดความแตกแยกเป็นวงกว้าง อยากจะสอบถามไปยัง ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำอะไรอยู่"
นายเดชา กล่าวอีกว่า ในประเด็นหลักก็มีทางออกให้ 1.เงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ แล้วเงินเหลือ จะไปให้ศูนย์ข้าวชุมชน ก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ไม่ได้ว่า เพราะถือว่าเป็นประโยชน์ของชาวนาและกลุ่มชาวนา แต่ในทางกลับกัน จะเอาเงินไปให้ศูนย์ข้าวชุมชนก่อน 1.5 หมื่นล้านบาท แล้วเหลือ ถึงจะมาให้ชาวนาทั้งประเทศแบบนี้เรายอมไม่ได้ เพราะเงินไม่พออยู่แล้ว ซึ่งในที่ประชุมก่อนหน้านี้ ทางสมาคมเคยเสนอว่า ขอทั้งสองงบเลยได้ไหม เพื่อช่วยเหลือชาวนา สำนักงบประมาณชี้แจงว่าเงินของกระทรวงเกษตรฯ เต็มเพดานแล้ว ไม่สามารถขอได้อีก
แต่ว่าหากไปของบกลาง นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราไม่แตะ เรื่องนั้นไม่ยุ่ง และมีทางออกอีกหนึ่งทางคือ หากสมาชิกศูนย์ข้าวชุมชน ได้เงินไร่ละ 1,000 บาทมาแล้ว จะนำเงินนั้นไปรวมกันแล้วซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร ก็เป็นเรื่องยินดีไม่ว่าอะไรเพราะเป็นเรื่องของชาวนาแต่ละบุคคล แต่ตอนนนี้เรื่องใหญ่ก็คือว่า ท่านรัฐมนตรีฯ ทำอะไรอยู่ ผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านเป็นแบบนี้ แล้วรู้เห็นกับเงิน 1.5 หมื่นล้าน หรือไม่อย่างไร นี่ตั้งคำถามเชิงข้อสังเกต