นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่ากระทรวงพาณิชย์จัดกิจกรรมส่งเสริมและยกระดับการพัฒนาสินค้าพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) จากมันสำปะหลัง และสินค้าแปรรูปและนวัตกรรมจากมันสำปะหลัง เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนยุทธศาสตร์มันสำปะหลังให้เป็นรูปธรรม สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการไทย การส่งเสริมและยกระดับสินค้าพลาสติกชีวภาพจากมันสำปะหลังและสินค้าแปรรูปและนวัตกรรมจากมันสำปะหลัง
ปัจจุบันเกษตรกรถือว่าราคามันสำปะหลังดีขึ้นมาก ในอดีตกิโลกรัมละ 1 บาทกว่า วันนี้ 3 บาทกว่าแล้ว เกินรายได้ที่ประกันที่กิโลกรัมละ 2.50 บาทอยู่เป็นปี แต่ทั้งหมดนี้ต้องยอมรับความจริงว่า ผลผลิตในประเทศเมื่อเทียบกับความต้องการใช้ยังไม่พอ โดยผลผลิตในประเทศปีละประมาณ 35 ล้านตัน แต่ความต้องการใช้ 42 ล้านตันยังขาด 6-7 ล้านตันในภาพรวม แต่ช่วงที่มันสำปะหลังออกเยอะราคาก็ตก การเตรียมการด้านการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ จะช่วยให้ราคามันสำหรับเกษตรกรในประเทศมีเสถียรภาพและมีความยั่งยืน
นอกจากนี้ยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการส่งเสริมสินค้าพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) และสินค้าแปรรูปและนวัตกรรมจากมันสำปะหลังแบบครบวงจร ระหว่างกรมการค้าต่างประเทศ และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่มเกษตรกร ทั้ง 11 หน่วยงาน เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สนช.) (สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย (7) สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทยสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เป็นต้น
“ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน อีกทั้งยังถือเป็นโอกาสอันดีและเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนอนาคตสินค้าพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) และสินค้าแปรรูปและนวัตกรรมจากมันสำปะหลังของไทยในการก้าวสู่ตลาดการค้าสากล และช่วยส่งเสริมและผลักดันการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์มันสำปะหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการตลาดแปรรูปและนวัตกรรมจากมันสำปะหลังจากหิ้งสู่ห้าง”
ทั้งนี้กระทรวงตั้งเป้าหมายที่สินค้าพลาสติกชีวภาพ (Bioplastic) จากมันสำปะหลัง เป็นสินค้านำร่องในระยะแรกก่อน โดยได้ตั้งเป้าหมายการส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปและนวัตกรรมจากมันสำปะหลังไปยังต่างประเทศมูลค่าไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาทในปี 2567 และยังสอดคล้องตามยุทธศาสตร์เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด มีเป้าหมายให้ไทยเป็นผู้นำด้านการผลิต การตลาด และการแก้ไขปัญญาเกี่ยวกับมันสำปะหลัง ที่มุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับสินค้าเกษตรจากมันสำปะหลัง ให้เป็นสินค้าคุณภาพดี มีมาตรฐานสากล ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค
อย่างงไรก็ตามในปี2566 จะมีการจัดงานประชุมสัมมนามันสำปะหลังโลก ปี 2566 หรือ World Tapioca Conference 2023 ในช่วงเดือนมกราคม 2566 ณ จังหวัดนครราชสีมา เพื่อแสดงศักยภาพของไทยในฐานะผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังอันดับหนึ่งของโลก โดยจะเชิญผู้นำเข้าจากต่างประเทศ เข้าร่วมพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าระหว่างกัน
ทั้งนี้การส่งออกมันสำปะหลังปี 2565 ทั้งปี เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปี 2564 คิดเป็นปริมาณรวม 11 ล้านตัน มูลค่า 4,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (130,000 ล้านบาท) รวมทั้งสินค้า Bioplastic จากมันสำปะหลังที่ได้รับการพัฒนาด้านนวัตกรรมก็จะนำไปแสดงผลงานเพื่อส่งเสริมตลาดในงาน World Tapioca Conference 2023 ในเดือนมกราคมปีหน้านี้อีกด้วย