บจ.แห่ยื่นขอไลเซนส์สินเชื่อ จำนำทะเบียนรถ ชิงเค้ก 2 แสนล้าน
บจ. แห่ยื่นทำธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ชิงเค้ก 2 แสนล้านบาท ผู้บริหาร “ฐิติกร” ชี้เหตุสภาพคล่องล้น ดอกเบี้ยขาลง ธุรกิจวิ่งหารีเทิร์นสูง ค่ายเคทีซี, ชโย กรุ๊ป, มิตรสิบฯลฯ คึกคักคาดเห็นสัญญาณชัดครึ่งปีหลัง ด้านเจ้าตลาด “เมืองไทย-ทิสโก้” ไม่กลัวผลกระทบชี้สเกลตลาดเติบโตตามยอดขายรถ โอกาสรายใหม่เกิดยาก
ภายหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (จำนำทะเบียน) เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้กฎหมายบังคับให้ผู้ที่จะทำธุรกิจดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจากคลัง-ธปท.และมีใบอนุญาต
“ฐานเศรษฐกิจ” ได้สำรวจพบว่ามีทั้งผู้ประกอบการรายเดิมและหน้าใหม่ให้ความสนใจ อาทิ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)(บมจ.) หรือ KTC ที่รอเพียงธนาคารกรุงไทยและผู้ถือหุ้นใหญ่อนุมัติก็พร้อมดำเนินการ คาดเริ่มภายในไตรมาส 2 นี้ เช่นเดียวกับ บมจ.ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ที่รอใบอนุญาตจากธปท. โดยเตรียมวงเงินรองรับการปล่อยผ่านสินเชื่อบุคคล (person loan) และพิโกไฟแนนซ์ และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่ทำเป็นปีแรกวงเงิน 200-250 ล้านบาท ขณะที่บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย ตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อประเภทนี้เท่าตัว จากพอร์ต 1,200 ล้านบาทในปีที่แล้ว เพิ่มเป็น 2,500 ล้านบาทในปีนี้
นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ฐิติกร หรือ TKผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เป็นหลักในสัดส่วนกว่า 95% กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าบริษัทกำลังศึกษาเรื่องการทำสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และพิโกไฟแนนซ์ หลังจากที่ธปท.และกระทรวงการคลังเข้ามาดูแลและเปิดช่องให้พิโกฯสามารถปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถโดยคิดอัตราดอกเบี้ย 36% จากเดิมที่พิโกฯต้องเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้การปล่อยกู้ต่อรายต้องไม่เกิน 5 หมื่นบาท ส่วนกรณีเพอร์ซันนัลโลนปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถได้ที่ดอกเบี้ย 28% ต่อรายสูงสุด 1 แสนบาท
นอกจากนี้หลังจากมีผู้เรียกร้องให้พิโก ปล่อยกู้ได้ถึงรายละ 1 แสนบาท ทางการกำลังพิจารณาว่าหากปล่อยกู้ได้รายละ 1 แสนบาท ทุนจดทะเบียนควรต้องขยับเป็น 10 ล้านบาท จากเดิม 5 ล้านบาท โดย 5 หมื่นบาทแรกคิดดอกเบี้ยสูงสุดได้ 36% ส่วน 50,001-1 แสนบาทหลังให้คิดที่ 28% อย่างไรก็ดี ข้อเสียของพิโก ก็คือ 1 ใบอนุญาตต่อ1 จังหวัด จึงค่อนข้างยุ่งยากหากขยายไปหลายพื้นที่
“สาเหตุที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่สนใจมาทำสินเชื่อจำนำทะเบียนรถกันมาก เนื่องจากที่ผ่านมา สภาพคล่องล้น ดอกเบี้ยอยู่ในขาลงตลอด ธุรกิจต่างวิ่งหาเพื่อให้ได้ผลตอบแทนดี อย่างพิโก ปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ คิดดอกเบี้ยได้ถึง 36%”
ขณะที่บมจ. มิตรสิบ ลิสซิ่ง หรือ MITSIB ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายและให้บริการสินเชื่อเช่าชื้อรถแท็กซี่และรถโดยสารสาธารณะ เตรียมระดมทุนโดยการเสนอขายไอพีโอ 167 ล้านบาท ก็มีแผนจะนำเงินที่ได้รองรับธุรกิจใหม่ที่จะทำคือ พิโกไฟแนนซ์และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โดยจะยื่นขอใบอนุญาตธปท. หลังจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai กลางปีนี้
นายนิติพัทญ์ ยงค์สงวนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ. มิตรสิบ ลิสซิ่ง กล่าวว่าธุรกิจจำนำทะเบียนรถเติบโตเร็วมาก มูลค่าตลาดนี้มีมากกว่า 2 แสนล้านบาท มองในระยะยาวมีโอกาสที่รายได้จากธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะเติบโตนำหน้าธุรกิจดั่งเดิมที่เราทำ มิตรสิบ ตั้งเป้าภายในปี 2565 สัดส่วนรายได้จากตัวธุรกิจใหม่ต่อธุรกิจเดิมจะเพิ่มเป็น 50:50 จากปี 2562 ที่เป้ารายได้ธุรกิจใหม่ต่อธุรกิจเดิมวางไว้ที่ 10:90% และในอนาคตคาดว่ารายได้จากธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ จะมีสัดส่วนมากกว่า 50% โดยบริษัทมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มเป็น 300 สาขาภายในปี 2565 จากปัจจุบันที่มี 4 สาขา
ด้านเจ้าตลาดอย่างบริษัทในเครือธนาคารทิสโก้ นายศุภชัย บุญนำสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเวย์ จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถภายใต้ชื่อ “สมหวัง เงินสั่งได้” กล่าวว่าผู้ประกอบการที่เข้ามาใหม่ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผู้เล่นหน้าเดิมเพียงแต่เข้ามาอยู่ในกรอบที่ธปท.วางไว้ให้ถูกต้อง และธุรกิจนี้สเกลค่อนข้างใหญ่ จากยอดขายรถยนต์ปีละล้านคัน จักรยานยนต์ปีละ 2 ล้านคัน และยอดสะสมรถอีกนับสิบล้านคัน จึงไม่มีผลต่อผู้เล่นในระบบ โดยบริษัท ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้เพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านบาท โตมากกว่า 30% จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการเพิ่มของสินเชื่อใหม่สุทธิ 5,000 ล้านบาท
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) กล่าวว่า มูลค่าตลาดจำนำทะเบียนรถมีประมาณ 2 แสนล้านบาท แต่เพิ่งเข้ามาในระบบราว 1 แสนล้านบาท ที่เหลือยังอยู่นอกระบบ และตลาดยังโตขึ้นทุกปีตามปริมาณยอดขายรถ เฉพาะ MTC ปีที่แล้วเติบโต 40% ในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะเติบโตให้ได้ 35% ล่าสุดคณะกรรมการ ได้อนุมัติให้ออกหุ้นกู้รองรับแผนการขยายธุรกิจ ไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่ง MTC ยังมั่นใจรักษาความเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และจักรยานยนต์เป็นอันดับ 1 ปัจจุบันมีฐานลูกหนี้กว่า 5 หมื่นล้านบาท ลูกค้ากว่า 1.5 ล้านราย และจำนวนสัญญาประมาณ 2 ล้านสัญญา
“หากเป็นรายใหม่ที่เข้ามาจริงๆ ต้องใช้เวลาในการสร้างฐาน และด้วยขนาดของธุรกิจที่ใหญ่ เราจึงไม่กลัวว่าจะถูกแย่งส่วนแบ่งตลาด ส่วนเหตุที่อยากเข้ามาทำก็สะท้อนจากผู้ประกอบการ ผ่านราคาหุ้นที่สูงกว่าราคาพาร์ถึง 8 เท่า และยีลด์ที่ธปท.ให้คิดดอกเบี้ยได้ถึง 28% เป็นแรงจูงใจ”
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,463 วันที่ 21-24 เมษายน 2562
